วันนี้ (26 ม.ค.2563) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมการแพทย์และกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่พบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตในประเทศจีนมากขึ้นว่า เชื้่อไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดมาประมาณ 40 วัน โอกาสจะกลายพันธุ์ค่อนข้างน้อยมาก และเวลากลายพันธุ์ไม่ได้มีความรุนแรงมากขึ้นเสมอไป ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์ เชื้อหลายชนิดกลายพันธุ์แล้วมีความอ่อนแอลง ซึ่งขณะนี้เชื้อยังเหมือนเดิม ส่วนการแพร่กระจายจะเป็นการติดต่อจากคนสู่คน แต่ยังอยู่ในวงแคบ เช่น อยู่ในครอบครัวเดียวกัน เป็นสามีหรือภรรยากัน แต่การแพร่กระจายแบบกว้างขวางยังไม่เกิดขึ้น
เร่งช่วยชาวจีนตกค้าง หวังลดเสี่ยงของไทย
นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์
สำหรับสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศไทยนั้น จากการที่ประเทศไทยถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนจีนชอบมาท่องเที่ยว การที่ทางการจีนได้สั่งห้ามคนจีนไม่ให้ไปต่างประเทศแล้ว โอกาสที่คนจะติดเชื้อก็น้อยลง แต่คนจีนที่เข้ามาประเทศไทย เมื่อประมาณ 7-10 วันก่อน ยังคงค้างอยู่ เมื่อไม่มีเครื่องบินมาส่ง ทำให้ไม่มีเครื่องบินรับกลับไปด้วย ซึ่งทางการไทยพยายามหาทางช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจีนที่ตกค้างให้เดินทางกลับ เพราะจะทำให้ความเสี่ยงของไทยมีน้อยลง
จ่อยกระดับ หลังเชื้อระบาดหลายเมืองทั่วจีน
ทั้งนี้ เนื่องจากในปัจจุบัน เชื้อไวรัสโคโรนามีการแพร่ระบาดไปเมืองอื่นๆ ของประเทศจีนด้วย เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเมืองอื่นหลายเมืองเกือบทั่วจีนแล้ว ดังนั้น มาตรการของไทยกำลังจะยกระดับว่าจะต้องเฝ้าระวังชาวจีนที่มาจากเมืองอื่นด้วยหรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันมีการเฝ้าระวังชาวจีนที่มาจากกวางโจว เพิ่มเติมจากเมืองอู่ฮั่นแล้ว
สำหรับข้อมูลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ประกาศไปแล้ว มีคนติดเชื้อในประเทศไทยแล้ว 5 คน แต่ในช่วงบ่ายจะมีการพิจารณาข้อมูลอีกหลายคน ซึ่งต้องรอการยืนยันจากผลตรวจจากห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็ป) ซึ่งถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ จึงกล้ายืนยัน คาดว่าในช่วงบ่ายจะมีข้อมูลเพิ่มขึ้น
อพยพคนไทยจากอู่ฮั่นต้องรอรัฐบาลตัดสินใจ
ที่ปรึกษากรมการแพทย์และกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีการช่วยเหลือหรืออพยพคนไทยออกจากเมืองอู่ฮั่นหรือไม่ว่า โดยส่วนตัวมองว่าถ้าอยู่ที่เมืองอู่ฮั่นและระวังตัว ไม่ได้ออกไปในที่ชุมชนต่างๆ มีโอกาสติดเชื้อไวรัสฯ ค่อนข้างน้อย ส่วนการที่สหรัฐอเมริกามีมาตรการอพยพพลเมืองออกจากจีนเป็นความคิดเห็นของสหรัฐฯเองว่าจะนำพลเมืองกลับประเทศ เพราะฉะนั้น จึงจะมีการหารือเรื่องนี้ในระดับภาครัฐบาล ซึ่งตนเองอยู่ในส่วนของฝ่ายการแพทย์ จะดูแลเรื่องการเจ็บป่วยของประชาชนในประเทศไทย
ไทยใช้ประสบการณ์เก่ารับมือเชื้อไวรัสโคโรนา
ส่วนการที่หลายคนมองว่าโรคนี้เป็นโรคใหม่ ประเทศไทยจะรับมืออย่างไร ขอเรียนให้ทราบว่าเราใช้ประสบการณ์เก่าตั้งแต่สมัยโรคซาร์ส เมื่อประมาณ 17 ปีที่แล้ว และประสบการณ์เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ที่มีประสบการณ์ไข้หวัดนกที่เรื้อรังมาหลายปี รวมทั้งประสบการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 โรคเมอร์สโคโรนาไวรัส ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้เหมือนเป็นแม่แบบที่เราจะมาดำเนินการ ซึ่งปัจจุบัน ได้นำประสบการณ์เก่าของเราเหล่านั้นมาใช้แล้ว มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมได้
คนติดเชื้อมีน้อย ยังไม่จำเป็นต้องใช้ยาต้านเอดส์
ส่วนการที่ทางการจีนใช้ยาต้านไวรัสโรคเอดส์มาใช้กับผู้ติดเชื้อแล้ว แต่พบว่ายังอยู่ระหว่างการทดลอง ซึ่งยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยัน โดยเวลาที่ไม่มียาไม่มีการรักษาอะไร แพทย์ก็ต้องพยายามหาทาง และพยายามมองลักษณะของเชื้อและลักษณะต่างๆ เลยมีคนนำยาโลปินาเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสเอดส์ขั้นดีมากมาลองดู จากข่าวระบุว่ามีคนลองแล้วได้ผลดี แต่ยังไม่สามารถใช้เป็นข้อสรุปได้ ซึ่งต้องมีการใช้และศึกษาวิจัยมากกว่านี้
ส่วนในประเทศไทยไม่ได้นำยาต้านไวรัสโรคเอดส์มาใช้กับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา เนื่องจากมีคนไข้ค่อนข้างน้อย และคนไข้ที่มีอยู่อาการก็ค่อนข้างน้อยมาก เป็นไข้แค่ 1-2 วัน และก็สบายดี สิ่งที่พบในปัจจุบัน มีการหารือกันว่าสมมติพบคนไข้ที่มีอาการรุนแรงมาก อาจพิจารณาใช้ยาต้านไวรัสเช่นกัน
แนะสวมหน้ากาก-หมั่นรักษาอนามัยส่วนบุคคล
นพ.ทวี กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติตัวและรับมือเชื้อไวรัสโคโรนาว่า เชื้อเหล่านี้เหมือนกับเชื้อของกลุ่มไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเชื้อจะออกมาจากการจามและไอ รวมทั้งละอองฝอยของการจามและไอ ถ้าไปอยู่ในพื้นที่ชุมชน แม้ว่าเราจะสบายดีไม่เป็นอะไร การที่เราสวมหน้ากากปิดหน้าอยู่ ไม่ให้สารคัดหลั่งเข้าสู่ร่างกายเรา จะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนมือเวลาเราเดินไปไหน เราจะไปจับราวบันไดและอุปกรณ์อื่น ซึ่งจะต้องล้างมือให้สะอาด หรือใช้แอลกอฮอล์ เจล ก็สามารถฆ่าเชื้อได้ ซึ่งเชื้อตัวนี้ฆ่าไม่ยาก โดนน้ำ สบู่ แอลกอฮอล์ เจล ก็ตายหมดแล้ว เพราะฉะนั้น ต้องหมั่นรักษาอนามัยส่วนบุคคลไว้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดใจนักศึกษาไทย หลังจีน "ปิดเมืองอู่ฮั่น"
ผู้ว่าฯ นครสวรรค์ สั่งรับมือ "ไวรัสโคโรนา" ป้องกันแพร่ระบาด
ยืนยันในไทยติดเชื้อ "โคโรนา" แค่ 5 คน -"นครสวรรค์" เฝ้าระวัง 3 คน
สนามบินเชียงใหม่ ยกเลิกเที่ยวบินจากเมืองอู่ฮั่น 24 ม.ค.- 4 ก.พ.นี้