อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตือน! ผู้ปกครองดูแลเด็ก "กลุ่มเสี่ยง" ช่วงฝุ่นพิษเกินมาตรฐาน
โพล เผย คนกรุงมองหน่วยงานรัฐไร้ประสิทธิภาพแก้ "วิกฤตฝุ่น"
คนกรุงอ่วม! ลมสงบ-เจอภาวะ "ฝาชีครอบ" ทำฝุ่นสะสม
โซเชียลเดือด! กระทุ้งรัฐเร่งสางฝุ่นพิษ - แนะกทม.ปิดโรงเรียน
วันนี้ ( 20 ม.ค.2563) นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองรายชั่วโมง เวลา 06.00-07.00 น. ตรวจวัดค่าได้ 47-89 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม) ภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่จากเมื่อวาน (19 ม.ค.) มีพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) 49 พื้นที่
สาเหตุของการเพิ่มขึ้นของค่าฝุ่นละอองในเช้าวันนี้ ยังคงเกิดภาวะลมสงบตั้งแต่ช่วงกลางคืนวันที่ 19 ม.ค. ต่อเนื่องถึงเช้าในหลายพื้นที่ของ กทม.และปริมณฑล ทำให้การกระจายตัวของฝุ่นละลองยังคงอยู่ในระดับต่ำอยู่ ประกอบกับสภาพความกดอากาศในพื้นที่ประเทศไทย เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดภาวะฝาชีครอบ (inversion) ในระดับต่ำ 1 กม.(ปกติ ควรสูงกว่า 3.0 กม.) ทำให้ฝุ่นไม่สามารถลอยขึ้นไปได้ และยังคงมีการสะสมตัวของฝุ่นละอองตั้งแต่เมื่อวานต่อเนื่องมาจนถึงเช้าของวันนี้เพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่สถานการณ์การจราจร เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ในช่วงกลางวันค่อนข้างจะหนาแน่นต่อเนื่อง ทำให้มีการสะสมตัวของฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นจนทำให้ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ยังคงอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพในช่วงเช้านี้
และจากสถานการณ์ฝุ่นละอองในช่วงเมื่อวานที่ผ่านมาเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น คพ.ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการภารกิจตามแผนฯอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกในการจราจร เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด โดยทาง บก.จร.ได้จัดชุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรลงจัดการจราจรในพื้นที่ที่การจราจรติดขัดหนักอย่างต่อเนื่อง
เตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพ
จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 สูงเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ ในช่วงเวลานี้ กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือน ให้ประชาชนที่อยู่ใน กลุ่มเสี่ยงทางสุขภาพที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ในพื้นที่ที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐานควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นเวลานาน ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันฝุ่นละออง รวมถึงป้องกันโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นไป ตามหลักการป้องกันไว้ก่อน
เข้มงวดลดเผา ก่อมลพิษ
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองในหลายพื้นที่มีค่าเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด กรมควบคุมมลพิษได้ดำเนินการประสานและขอให้เข้มงวดในมาตรการที่ได้ผ่านมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามบัญชาท่านนายกรัฐมนตรี ที่ให้ทุกหน่วยงานเร่งรัด อย่างเข้มงวด และเร่งด่วนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ให้ดีขึ้น
หน่วยงาน เช่น กรมขนส่งทางบก กรมทางหลวง กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) กรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กรมทางหลวง กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรฯ จังหวัดปริมณฑล ยังคงดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง อาทิ จัดชุดตรวจการ 16 ชุด ตรวจทุกวัน วันที่ 19 ม.ค. 2563 ลงพื้นที่ตั้งจุดตรวจวัดควันดำรถบรรทุก และรถโดยสาร รวมทั้งสิ้น 304 คัน เข้มงวดการห้ามรถบรรทุกเข้าเขตกรุงเทพมหานครตามช่วงเวลาที่กำหนด เข้มงวดตรวจจับควันดำรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถโดยสาร อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เร่งการระบายรถโดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ก่อสร้างและกวดขันจับกุมรถจอดขวางการจราจร เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด
รวมถึงรณรงค์ให้ผู้ใช้ทางหันมาใช้ M-Pass และ Easy Pass เพิ่มความคล่องตัวในการจราจร ควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศอย่างเข้มงวด โดย กรอ.ประสาน โรงงานอุตสาหกรรมลดกำลังการผลิตในช่วงสถานการณ์ฝุ่นละอองสูง ไม่ให้มีการเผาในที่โล่งในพื้นที่ กทม และปริมณฑล จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เฝ้าระวังการเผาไหม้ข้างทาง พร้อมปฏิบัติการ 24 ชั่วโมง ควบคุมและลดฝุ่นจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าและการก่อสร้างประเภทอื่นๆ พร้อมทั้งเร่งคืนผิวการจราจรให้แก่ประชาชนเพื่อลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดในช่วงกลางวัน /แจ้งเตือนสถานการณ์และแนะนำการปฏิบัติตนของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์
อากาศปิด ยังคงมีฝุ่นละอองสะสม
ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา สถานการณ์ในช่วงเช้านี้ ยังคงมีการสะสมตัวของฝุ่นละอองต่อเนื่อง จากภาวะสภาพอากาศปิด ลมสงบ จนกระทั่งในช่วงเที่ยงของวันนี้ การฟุ้งกระจายตัวของฝุ่นละอองจะเริ่มดีขึ้นเนื่องจากหลายพื้นที่ ในกทม.และปริมณฑลจะได้รับอิทธิพลลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็วสูงสุด 10-20 กม/ชม. และอาจมีโอกาสที่จะเกิดฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ข้อมูลการพยากรณ์อากาศรายสัปดาห์พบว่า ช่วงวันที่ 21-22 ม.ค.2563 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง คลื่นอากาศในกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนจะพัดผ่านประเทศเมียนมาเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ
ส่วนในช่วงวันที่ 22 - 24 ม.ค. 2563 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออกลงสู่ทะเลจีนใต้มากยิ่งขึ้น ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกและภาคกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
เนื่องจากในวันนี้เป็นวันต้นสัปดาห์ของการทำงาน การจราจรในภาพรวมของเช้านี้มีการจราจรที่หนาแน่นและติดขัดในหลายเส้นทาง ซึ่งสอดคล้องข้อมูลดัชนีรถติดจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย และ บก.จร. สถานการณ์ภาพรวมในวันนี้อาจจะยังคงมีการสะสมของฝุ่นละอองอยู่ระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม คพ. ยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสาธารณชนทราบเพื่อจะได้ดำเนินการเข้าไปบรรเทาสภาพปัญหา และเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบใช้เป็นข้อมูลในการดูแลตนเองต่อไป
ประชาชนสามารถติดตาสถานการณ์คุณภาพอากาศแบบ RealTime ได้ทาง Air4Thai.com