วันนี้ (19 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพตัวเมือง จ.นครสวรรค์ และพื้นที่ในเขตเทศบาลเมือง มีฝุ่นปกคลุมตั้งแต่ช่วงเช้ามืด จนถึงเวลา 14.00 น. ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีฝุ่นฟุ้งกระจายจนบางพื้นที่มองไม่เห็นที่พักอาศัย หรือแม่น้ำเจ้าพระยาได้ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่ออยู่บริเวณจุดชมวิวมุมสูงจากวัดคีรีวงศ์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์
ขณะที่การตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 ของ จ.นครสวรรค์ ปัจจุบันมีสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษอยู่เพียง 1 เครื่อง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครสวรรค์ที่ ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง โดยอยู่ในรั้วของสำนักงานโครงการชลประทานจังหวัดนครสวรรค์
ขณะนี้กรมควบคุมมลพิษได้ทำระบบในแอปพลิเคชัน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบค่าฝุ่น PM2.5 เป็นรายชั่วโมงแล้ว จากเดิมที่เป็นค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ซึ่งวันนี้ (19 ม.ค.) ค่าฝุ่นที่สถานีตรวจวัด วัดได้ 74 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกินค่ามาตรฐาน และยังพบว่าตัวเลขค่าฝุ่น PM2.5 ในวันนี้สูงที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง 10 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อเวลา 05.00 น.ที่ค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 99 มคก./ลบ.ม. และแม้ช่วงครึ่งบ่ายจะลดลงเหลือในระดับ 70-73 มคก./ลบ.ม. แต่ก็ยังเป็นค่าที่ทำให้คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยกับไทยพีบีเอสว่า ขณะนี้ได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 มาอย่างต่อเนื่อง หลังพบว่าค่าฝุ่นสูงเกินเกณฑ์กลางที่กำหนดไว้ รวมถึงค่าความร้อนเผาไหม้ หรือจุดฮอตสปอต ที่ติดตามจากเพจ Smoke Watch ของกลุ่มนักวิชาการที่ติดตามเรื่องไฟป่า พบว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าความร้อนของ จ.นครสวรรค์ มีกว่า 160 จุด ซึ่งถือว่าเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง แต่ได้กำชับให้นายอำเภอให้ติดตามในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและรีบเข้าดับไฟหากพบจุดเผาไหม้ จนทำให้ค่าเผาไหม้จุดฮอตปอต ลดลงเหลือ 50 กว่าจุดในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่ยังแปลกใจว่าค่าการเผาไหม้ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ลดลง แต่ยังมีค่าฝุ่นพิษ PM2.5 สูงขึ้น ในระดับถึงกว่า 70-90 มคก./ลบ.ม. ในช่วงวันนี้
ผู้ว่าฯ นครสวรรค์ กล่าวอีกว่า วันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) จะเรียกประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน ทั้ง ปภ. และนายอำเภอ เพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามข้อราชการที่ได้สั่งการไปแล้ว รวมถึงที่จะมีคำสั่งเพิ่มเติมหลังจากฟังรายงานสถานการณ์วันพรุ่งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาได้พยายามแก้ปัญหาจุดเผาไหม้ให้ลดลง ซึ่งก็พบว่าลดลงบ้างแล้ว ขณะที่ทางขนส่งจังหวัดก็มีการตรวจจับรถยนต์ควันดำ รวมถึงได้กำชับนายอำเภอให้ดูแลและกำชับกลุ่มผู้ประกอบการโรงโม่หินอุตสาหกรรมโรงงาน
นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์
วิ่งไล่ฝุ่น "นครสวรรค์ ริเวอร์ รัน 2020"
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงเช้าวันนี้ (19 ม.ค.) มีนักวิ่งไปรวมตัวกันในงาน "นครสวรรค์ ริเวอร์ รัน 2020" ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักวิ่งที่มีแนวคิดคล้ายๆ กันต่อการเรียกร้องให้สังคมสนใจประเด็นฝุ่นพิษ PM2.5 ที่สูงเกินค่ามาตรฐาน ทั้งใน จ.นครสวรรค์ รวมถึงสถานการณ์ฝุ่นพิษที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร, ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน ใช้เส้นทางวิ่งหลักในเขตเทศบาลเมืองนครสวรรค์
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ฝุ่น หรือนครสวรรค์ ริเวอร์ รัน 2020 มาจากหลายพื้นที่ ไม่ใช่แค่ใน จ.นครสวรรค์ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่มาจากกรุงเทพฯ, เชียงใหม่, อุทัยธานี, พิษณุโลก เป็นต้น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พวกเขาให้ข้อมูลว่าเคยเผชิญต่อสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 มาก่อนในช่วงปีที่ผ่านมา และทำให้เห็นว่าการวิ่งที่ จ.นครสวรรค์ ครั้งนี้เป็นการจุดประกายและสะท้อนถึงเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ทุกฝ่ายช่วยกันแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5
ขณะที่นักวิ่งหลายคนเห็นด้วยกับการจัดงานวิ่งที่ริเริ่มโดยกลุ่มเยาวชนใน จ.นครสวรรค์ ซึ่งผู้เข้าร่วมวิ่งบางคนก็ยังอยู่ในสภาพที่บ้านพักอาศัยต้องเผชิญกับละอองเขม่าที่เกิดจากการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง ปลิวเข้าใส่บ้านและเสื้อผ้า จึงอยากให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาฝุ่นว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว