จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณ ได้มีการสอบถามแผนฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ จ.กาญจนบุรี ว่าอาจไม่ครอบคลุมในการฟื้นฟูหางแร่ตะกั่ว ที่ยังปนเปื้อนในพื้นที่ชุมชนและในป่า ขอให้กรมควบคุมมล พิษ (คพ.) ดำเนินการเพิ่มเติม
วันนี้ (15 พ.ย.2562) นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา คพ.ลงพื้นที่ร่วมกับผู้นำชุมชนบ้านคลิตี้ พบว่ายังมีหางแร่ตะกั่วปริมาณค่อนข้างมาก และบางจุดมีค่าความเข้มข้นของสารโลหะหนักของตะกั่วสูงถึง 70,000-100,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (มก.กก.) เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 400 มก.ต่อ กก.สูงเกินค่ามาตรฐานกว่า 200-250 เท่า จะต้องนำไปฝั่งกลบในบ่อฝังกลบแบบปลอดภัยอีกประมาณ 150,000 ตัน โดยคพ.จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว
อธิบดีคพ. กล่าวว่า การฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ เริ่มตั้งแต่ปี 2560 โดยมี 4 ขั้นตอน ดังนี้ การจัดทำบ่อฝังกลบแบบปลอดภัย และปูชั้นวัสดุกันซึมแล้วเสร็จ เพื่อรองรับดินที่มีการปนเปื้อนตะกั่ว และตะกอนท้องน้ำที่จะขุดลอกขึ้นมาสามารถจุได้ ขนาด 100,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) การฟื้นฟูหางแร่ตะกั่วในลำ ห้วย เป็นการขุดลอกตะกอนใต้ท้องน้ำ 40,000 ลบ.ม. ไปฝังกลบในบ่อฝังกลบแบบปลอดภัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการดูดตะกอนขึ้นมาจากลำห้วย
ภาพ:กรมควบคุมมลพิษ
เร่งฟื้นฟูสารตะกั่วตกค้างเฟส 2
ส่วนการสร้างฝายดักตะกอน ดำเนินการแล้วเสร็จ และปิดคลุมพื้นที่ปนเปื้อน ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วเช่นกัน ในส่วนของการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพน้ำ คพ.ได้ดำเนินการและชี้แจงประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง
การขุดลอกตะกอนเฉพาะใต้ท้องน้ำ ตามคำฟ้องว่ามีการปนเปื้อนของสารตะกั่วในลำห้วยคลิตี้ การเสนอให้มีการฟื้นฟูในลำห้วยคลิตี้ จึงยังไม่ครอบคลุมการปนเปื้อนของสารตะกั่วซึ่งมีอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งพื้นที่บนบก พื้นที่ชุมชนและพื้นที่ในป่า
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามคำแนะนำของคณะกรรมาธิการงบประมาณในการแก้ไขและฟื้นฟูหางแร่ตะกั่วดังกล่าว ในเบื้องต้น คพ.ได้ประสานกับสำนักงบประมาณในช่วงเวลาการชี้แจง งบประมาณของกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเสนอโครงการฟื้นฟูคลิตี้ระยะที่ 2 ในการดำเนินการในบริเวณพื้นที่ยังมีการปนเปื้อนในพื้นที่บนบก พื้นที่ชุมชนและพื้นที่ในป่า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
พบลอบทิ้งตะกอนหางแร่หมู่บ้านคลิตี้ จ.กาญจนบุรี