วันนี้ (13 ก.ย.2562) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้แถลงมติผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีสารพาราควอตอีกครั้ง โดยระบุว่า ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะส่งหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นำเรื่องเข้า ครม.และสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมออกประกาศเพื่อปรับระดับการควบคุมพาราควอตให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 คือ ห้ามนำเข้า จำหน่าย และมีไว้ครอบครอง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563
แต่หากยังไม่มีการดำเนินการ หรือ ไม่มีความคืบหน้าโดยไม่มีเหตุอันควร สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำเป็นต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพราะอาจเข้าข่ายฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะกรณีนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินมีความเห็นว่า ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง
ก่อนหน้านี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินเคยมีมติ และมีข้อเสนอเมื่อเดือนธันวาคม 2561 ให้ยกเลิกพาราควอตให้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 หรือ ยกเลิกภายในปีนี้ แต่คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติล่าสุดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 ยังคงยืนยันมติเดิม ไม่ยกเลิก และให้เหตุผลว่า สามารถควบคุมและจำกัดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชที่มีความเสี่ยงสูงได้ ทำให้ผู้ตรวจการแผ่นดินออกมาขีดเส้นตายในวันนี้
นายรักษเกชา ระบุด้วยว่า นอกจากจะส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังได้ทำหนังสือถึง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ประกาศสนับสนุนให้ยกเลิกการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง 3 ชนิด คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ภายในปีนี้ด้วย เพื่อให้พิจารณาเรื่องการเร่งหาสารทดแทนให้ได้ก่อนปี 2563
ขณะที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ 399 เสียง ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมี โดยมีกรรมาธิการรวม 44 คน ใช้ระยะเวลาในการพิจารณา 60 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผ่านฉลุยทั้งสภาฯ ตั้ง กมธ.ศึกษาปัญหาสารเคมีเกษตร
"มนัญญา" ย้ำเลิกสารเคมีเกษตรอันตรายแน่! ปลายปีนี้