วันนี้ (10 ก.ย.2562) ตัวแทน เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษร้ายแรง 686 องค์กร เข้าพบ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อสนับสนุนยกเลิกการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง 3 ชนิด โดยเรียกร้องยกเลิกการต่อทะเบียนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด, เสนอคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้มีการยกเลิกการใช้สารเคมีดังกล่าว และหาแนวทางหรือมาตรการในการสนับสนุนเกษตรกร เฉพาะกลุ่ม ที่อาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น โดยอาจพิจารณาการเก็บภาษีจากผู้นำเข้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เพื่อนำมาใช้ดำเนินการสนับสนุนการวิจัย และมาตรการส่งเสริมการลด ละ เลิก การใช้สารเคมีเกษตร สู่การสร้างพื้นที่เกษตรเพื่อความยั่งยืน
รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตอบรับข้อเสนอเครือข่ายภาคประชาชนในทันที โดยยืนยัน ได้ยุติการนำเข้าสารเคมีที่มีความเสี่ยงสูงทั้ง 3 ชนิดแล้ว และไม่มีการต่อหรือขึ้นทะเบียนใหม่
พร้อมยืนยันความตั้งใจยกเลิกสารเคมีกลุ่มดังกล่าวให้ได้ก่อนสิ้นปี 2562 โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้ง จำนวนสต๊อกสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ความอันตราย ผลกระทบต่อสุขภาพ รวมถึงการใช้สารและวิธีการทดแทน ซึ่งจะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปถึงวิธีทดแทนให้แล้วเสร็จในวันนี้ และเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายโดยเร็วที่สุด เพื่อให้พิจารณายกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด
เราจะลงตรวจสต๊อกสารเคมีทั้ง 3 ชนิดที่ค้างอยู่ และรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้รอบด้าน รอบคอบ เพื่อรายงานคณะกรรมการวัตถุอันตรายอย่างครบถ้วน โดยจะเร่งดำเนินการ และเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณายกเลิกโดยเร็วที่สุด
ผศ.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ ตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าวว่า เป็นความก้าวหน้าของการแก้ไขปัญหา เพราะคณะกรรมการวัตถุอันตราย มักจะพิจารณาเห็นชอบ โดยยึดตามข้อเสนอของคณะกรรมการจากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่รับผิดชอบสารเคมีเหล่านี้ หากกระทรวงเกษตรฯ ยืนยันเสนอที่จะยกเลิก ผลก็จะเป็นไปในทิศทางนี้
ด้านนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเข้ายื่นหนังสือสนับสนุนให้กระทรวงเกษตรฯ ยกเลิกการใช้สารเคมีฯ 3 ชนิด ระบุว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้พยายามผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่หัวใจของการยกเลิกสารเคมีดังกล่าว จึงอยู่ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบกับการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ของคณะกรรมการวัตถุอันตรายในครั้งก่อน ที่ต่อเวลาให้ใช้ไปอีก 2 ปี จึงต้องวัดใจการพิจารณาครั้งนี้ แต่หากจะเดินหน้าได้เร็ว ควรออกเป็นพระราชกำหนด เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่มีความอันตราย กระทบต่อสุขภาพประชาชน
หากคณะกรรมการวัตถุอันตรายยืดเวลาให้มีการใช้ออกไปอีก ก็ไม่ต่างจากครั้งที่ผ่าน ๆ มา หาก รมว. และ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมาจากประชาชน ฟังเสียงประชาชน ก็ขอให้เป็นนโยบายที่ชัดเจนไปเลย และควรที่จะออกเป็น พ.ร.ก.มากกว่า
"มนัญญา" เตรียมลงพื้นที่เวียงแก่น
ส่วนความคืบหน้า กรณีพบสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ปนเปื้อนในเลือดนักเรียนโรงเรียนปอวิทยา อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย น.ส.มนัญญา สั่งการให้กรมวิชาการเกษตร มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ติดตามปัญหาการใช้สารเคมีเกษตร เพื่อหาสาเหตุ หลังมีการตรวจพบสารเคมีกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อนในเลือดเด็กนักเรียนฯ และเตรียมลงพื้นที่เพื่อติดตาม หาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พบปัจจัยเสี่ยง ทำเด็กเวียงแก่นสารเคมีปนเปื้อนในเกณฑ์ไม่ปลอดภัย
รมช.เกษตรฯ ย้ำต้องยกเลิกสารเคมีอันตรายอย่างเร็วที่สุด