วันนี้ (26 ก.ค.2562) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย แถลงข่าวบริเวณหน้าห้องประชุมรัฐสภา อาคารรัฐสภาชั่วคราว กรณีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาไม่อนุญาตให้อภิปรายในวันนี้ ทั้งที่ยังมีเรื่องค้างอยู่ 2 เรื่องที่ยังไม่ได้อภิปราย ซึ่งแจ้งไว้ต่อสภาเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า วันนี้เตรียมตัวมาอภิปรายอีก 2 เรื่องซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญ คือ เรื่องการเข้าแถลงนโยบายของนายกฯ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ โดยได้เตรียมพยานหลักฐานไว้เพื่อประกอบการอภิปรายด้วย แต่ประธานรัฐสภา ไม่อนุญาตให้อภิปราย ติดสิทธิพูด
พรรคเสรีรวมไทยมีเวลา 45 นาที เมื่อวานผมใช้ไป 9 นาทีเศษ เหลือเวลา 35 นาที 51 วินาที แต่ขณะที่มีการประท้วงกันเขาก็ตัดเวลาผมเรื่อยๆ จนผมหยุด คิดดูขนาดเวลา เขายังโกงผมเลย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า สำปรับประเด็นที่จะอภิปรายประเด็นเรื่องคำแถลงนโยบายที่ขัดรัฐธรรมนูญ มอบให้ นพ.เรวัต วิศรุตเวช พรรคเสรีรวมไทยอภิปรายแทน ส่วนประเด็นกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณของคณะรัฐมนตรีจะให้รองหัวหน้าพรรคอภิปรายแทน โดยทาง ส.ส.พรรคได้ส่งเอกสารหลักฐานให้ทางรัฐสภาแล้ว ซึ่งเขาอนุญาตให้พูดแต่ไม่อนุญาตให้ใช้หลักฐาน ไม่ให้แสดงคลิปในสภาฯ
เมื่อไม่ให้ผมพูดในสภาฯ ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ผมจะขอใช้สิทธิดำเนินคดีตามกฎหมาย จริงๆ ผมเคารพคุณชวนมาก แต่มาวันนี้ ไม่ใช่คุณชวนคนเก่าแล้ว เสรีคำไหน คำนั้น ผมจะดำเนินคดีอาญา เพราะแค่ดำเนินการทางการเมืองไม่เอาหรอก ทางการเมืองคุณชวนเขาไม่กลัว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า เตรียมดำเนินคดีกับนายชวน หลีกภัย ในข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งก็ต้องไปพิสูจน์กันต่อไป
อภิปราย 2 ประเด็น นอกสภาฯ
สำหรับประเด็นการแถลงนโยบายของ ครม. ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ระบุว่า คณะรัฐมนตรีที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งต้องสอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายของรัฐ ยุทธศาสตร์ชาติ และต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะมาใช้จ่ายดำเนินการตามนโยบายซึ่งตามมาตรานี้ คณะรัฐมนตรีเข้ามาแถลงแล้ว และมีการพูดถึงนโยบายต่างๆ แต่ไม่มีการชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะมาใช้จ่ายดำเนินการตามนโยบาย เพราะฉะนั้น จึงไม่เป็นไปตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 162
เช่นเดียวกับ พ.ร.ป.ปี 2560 มาตรา 57 ระบุว่า นโยบายใดที่ต้องใช้เงินอย่างน้อยต้องแสดงข้อมูล 3 รายการ คือ 1.วงเงินที่ต้องใช้ 2.ที่มาของเงิน 3.ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย แต่คณะรัฐมนตรีไม่ได้มีข้อมูล เมื่อท่านคณะรัฐมนตรีไม่ได้ดำเนินการตามที่กำหนด จึงถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่ง ส.ส.และ ส.ว.ทุกคนต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ
โดยมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ ก่อนจะเข้ารับหน้าที่รัฐมนตรี รวมถึงนายกฯ ต้องกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ และคำสุดท้ายของคำปฏิญาณ คือ "ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ" ซึ่งทุกคนต้องทำตามรัฐธรรมนูญ จะขาดไม่ได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้กล่าวข้อความ "ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ" ซึ่งหมายความว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้ ไม่ได้กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว พรรคเพื่อไทย ระบุว่า 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านต้องการปกป้องสิทธิเพื่อนสมาชิกร่วมรัฐสภา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่าจะทำหนังสือถึงประธานรัฐสภาว่า การอภิปรายของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นเอกสิทธิ และอยู่ภายใต้ข้อบังคับที่ถูกต้อง เพื่อให้ประธานรัฐสภาได้คืนสิทธิ และให้โอกาส พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้พูดและจะหารือประธานสภาฯ ให้ได้วินิจฉัยประเด็นนี้ภายในสภาฯ ด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝ่ายค้านหารือ "ชวน" หลักวินิจฉัย-ลงโทษ ก่อนไล่ออกจากสภาฯ
"ชวน" ไม่ให้อภิปรายต่อ "เสรีพิศุทธ์" ขอใช้สิทธิตามกฎหมาย
สภาวุ่น! "ประยุทธ์-เสรีพิศุทธ์" ปะทะคารมเดือดตัดสัมพันธ์พี่น้อง