วันนี้ (26 ก.ค.) เวลา 14.30 น. น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ วิพากษ์นโยบายด้านการศึกษา ระบุว่า ในคำแถลงนโยบายระบบการศึกษายังไม่ชัดเจน ทั้งที่มีปัญหาซ้ำซากและเชิงโครงสร้างมานาน 10 ปี เช่น ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โรงเรียนบางแห่งไม่มีครู ไม่มีอุปกรณ์ หรือมีครู แต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ปัญหาเด็กยากจนที่ต้องผ่านกระบวนคัดกรองทางเอกสาร เพื่อเงินเพียง 500 บาท และการยกระดับคุณภาพการศึกษา สำหรับเด็กที่มีความสามารถพิเศษ ไม่ควรมีเงื่อนไข
น.ส.กุลธิดากล่าวต่อว่า ภาระงานครูที่ต้องทำหน้าที่ประเมินผลงาน การแก้ปัญหาไม่ได้มององค์รวม ทำให้ขาดการพัฒนาทักษะ ขาดการส่งเสริมครู ตลอดจนถึงเกษียณ เพราะเกี่ยวกับกฎหมาย 6 ฉบับ อยากให้คณะรัฐมนตรีหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กุลธิดา ยังตั้งคำถามถึงมาตรฐานขั้นต่ำของโรงเรียนว่า กระทรวงศึกษาธิการจะกำหนดเรื่องอะไรเป็นมาตรฐานขั้นต่ำ เช่น อาหารกลางวัน ความปลอดภัยในโรงเรียน การล่วงละเมิดในโรงเรียน ห้องน้ำและอุปกรณ์การเรียน ทั้งยังต้องแก้เชิงโครงสร้างของการศึกษา จะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
จากนั้น นายณัฎฐพล ทีปสุรรณ รมว.ศึกษาธิการ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ปัญหาที่พรรคอนาคตใหม่เสนอแนะจะได้รับการแก้ไข หากได้รับความร่วมมือ ส่วนกรณีการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กอยู่ในแผน เพราะลงพื้นที่ จ.สตูล เห็นความต่างของโรงเรียนขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่ประสบปัญหาครู-นักเรียนในการศึกษา ซึ่งวันนี้ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษายังมีอยู่ โรงเรียนชายขอบต้องนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปช่วย
โรงเรียน 6-7 แห่ง ที่ผมไปดูไม่มีปัญหา อินเตอร์เน็ต อาหารกลางวันดี แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีปัญหา ซึ่งจะช่วยกันแก้ตรงจุดนี้
ขอเวลาให้ผมและรัฐมนตรีช่วย 2 คน ทำงานร่วมกับผู้บริหารและครู สร้างขวัญและกำลังใจด้วยการแก้หนี้ให้ครู ส่วนการควบรวมโรงเรียน ยกตัวอย่างสิงคโปร์ หากโรงเรียนไม่มีคุณภาพเขาจะควบรวมทันที แม้จะสร้างความกังวลก็ต้องทำความเข้าใจ ส่วนของไทยเชื่อว่าสามารถทำได้