วันนี้ (11 พ.ค.2562) เพจเฟซบุ๊กองค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ Watchdog Thailand ออกหนังสือเปิดผนึกจาก WDT ถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพ.ร.บ.ช้างไทย โดยระบุว่าเป็นข่าวเศร้าสำหรับคนรักช้างในประเทศไทย ที่กรมการค้าต่างประเทศจะอนุญาตให้มีการส่งช้างไทยไปต่างประเทศได้และคาดว่าจะสามารถส่งไปได้ในเร็ววันนี้
โดยรบกวนช่วยกันประชาสัมพันธ์ช่วยกันลงชื่อhttp://chng.it/rbmrFgzYfK ทั้งนี้องค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ Watchdog Thailand ในฐานะที่เป็นองค์กรที่ต่อสู้เพื่อสิทธิสัตว์และเป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฏหมาย จะไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ โดยระบุว่าจะผนึกกำลังกันกับองค์กรจากทั่วโลกเพื่อต่อต้านและะคัดค้าน #พรบ.#ขายสัตว์ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของชาติ
ทั้งนี้ ได้ตั้งคำถามกับผู้มีอำนาจที่รับผิดชอบ และขอให้ผู้มีอำนาจแห่งรัฐคิดทบทวนดีแล้วหรือต่อการประกาศคำสั่งนี้ออกมา และศึกษาปัญหาอย่างถ่องแท้ต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการประกาศการนำเอาช้าง ซึ่งเป็นสัตว์สัญญลักษณ์ของประเทศไปเร่ส่งออกอย่างนี้แล้วหรือได้นำเรื่องนี้สู่สาธารณชนก่อนการผ่านพ.ร.บ.นี้หรือไม่
องค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ Watchdog Thailand
แนะตัวอย่างลาวส่งออกช้างจนเสี่ยงสูญพันธุ์
ถ้าท่านยังไม่เห็นผลกระทบร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในวันข้างหน้าอยากให้ท่านศึกษาจากบทเรียนของประเทศเพื่อนบ้าน เช่นลาว ดินแดนล้านช้าง ที่หน่วยงานของรัฐปล่อยให้ส่งช้างข้ามชาติได้
วันนี้ลาวดินแดนแห่งช้างล้านตัว มีช้างเหลือเพียงไม่กี่ร้อยเชือก และทางการลาวก็เร่งออกกฎหมายห้ามนำช้างออกจากราชอาณาจักรลาวตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป
ท่านเคยศึกษาหรือไม่ว่าในปัจจุบันช้างไทยที่ลงทะเบียนตั๋วรูปพรรณที่ถูกต้องและชัดเจนมีเหลือจำนวนน้อยมากในประเทศไทย ขณะที่ในปัจจุบันกลับมีขบวนการค้าช้างข้ามชาติได้ลักลอบนำช้าง ข้ามชายแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน และจับลูกช้างป่ามาสวมตั๋วรูปพรรณเพื่อรอการส่งออกโดยมีการร่วมมือกันเป็นขบวนการมาหลายทศวรรษ
การส่งช้างไปต่างประเทศจะอ้างเรื่องการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การยืมช้างไปทำการเพาะพันธ์ และการทำวิจัย เช่นการส่งช้างไปบางประเทศในยุโรปที่จนป่านนี้ หน่วยงานรัฐยังไม่มีปัญญาไปทวงคืนมา ทั้งๆที่มีกติการะบุชัดเจนและตอนนี้ ก็ยังไม่มีใคร หรือหน่วยงานหน้าไหนออกมารับผิดชอบ หรือออกมายืนยันว่าจะจัดการนำช้างไทยเหล่านั้นกลับมาอย่างไร
ภาพ:องค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ Watchdog Thailand
กังขาเงินประกันส่งช้างล่องหน
ประการสำคัญ WDT อยากให้สังคมช่วยกันจับตามองและติดตามประเด็นเรื่องเงินประกันตัวช้างที่ส่งไปยังต่างประเทศ ทั้งที่ยุโรป เยอรมันนี และจีนว่าเงินประกันตัวช้างยังอยู่ครบหรือไม่ ถ้ายังอยู่ขอความกรุณาชี้แจง นำเงินประกันก้อนมาเปิดเผยต่อสังคมด้วย หรือ มีว่าคนแอบเบิกเงินนั้นไปใช้แล้ว
ช่วยตอบคำถามนี้ให้กระจ่างสังคมด้วย เพราะมันเป็นเงินจำนวนหลักสิบล้าน การส่งสัตว์แลกเปลี่ยนที่ทำกันมาในรอบหลายปีที่ผ่านมา WDT ขอเรียนถามเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งช้างไปต่างประเทศว่า ท่านได้ไปติดตามดูชีวิตความเป็นอยู่ของพวกช้างเหล่านั้นบ้างไหม ไม่ว่าจะเป็น
#ช้างฮานาโกะ ช้างไทยที่ส่งไปตายอย่างโดดเดี่ยว ทรมาน ท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บที่สวนสัตว์ประเทศญี่ปุ่น จนกลายเป็นตำนานเล่าขานโด่งดังไปทั่วโลกถึงความน่าสงสารของช้างเชือกนี้
#ช้างซากุระ เป็นอีกเชือกหนึ่งที่ส่งไปญี่ปุ่น และตอนนี้ถูกขายต่อมาที่ประเทศเกาหลี เนื่องจากสวนสัตว์เอกชนที่ญี่ปุ่นปิด
ท่านเคยไปติดตามบ้างไหม ว่าวันนี้ช้างเหล่านี้ต้องไปทนทุกข์ทรมานกับประเทศที่ไม่ใช่แผ่นดินแม่เขาอย่างไรบ้าง แล้วที่ยังตกค้างอีกเป็นจำนวนมากที่ประเทศจีน ที่อ้างว่าเป็นช้างยืมไปเพื่อสัมพันธไมตรี โดยทุกใบอนุญาต มีองค์กรไซเตสเกี่ยวข้อง มีข้อกำหนดเวลาในการนำช้างกลับมา
แต่ความจริงแล้ว เคยมีช้างได้กลับมาบ้างไหม !นี่ยังไม่รวมที่ทางการหน่วยงานรัฐปล่อยให้นำช้างไทยไปร่วมจับช้างป่าที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย บางเชือกไปเสียชีวิตที่นั่น ไม่ได้กลับมาบ้าน
มิหนำซำ้งาถูกตัดขโมยไป ข่าวอาจจะถูกปิด แต่กับองค์กรสัตว์สากลเรื่องเหล่านี้มันปิดไม่มิด การจะออกใบอนุญาตใดๆก็ตาม หน่วยงานรัฐต้องทบทวนหรือพิจารณาอย่างรอบคอบโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ป่าเพราะปัจจุบันทั่วโลกมีการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องช้าง
องค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ Watchdog Thailand
ขอทบทวนอ้างวิจัย-เชื่อมสัมพันธ์
ถ้าหน่วยงานรัฐบาลปล่อยให้มีการอนุญาตส่งช้างออกไปยังต่างประเทศได้ นี่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายต่อนานาประเทศ ที่ทุกประเทศล้วนมุ่งเน้นที่จะอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
สนับสนุนส่งเสริมคนในประเทศของตนเองให้เห็นคุณค่าและช่วยปกป้อทรัพยากรธรรมชาติในประเทศของตนเอง สิ่งที่องค์กรของเราขอตั้งคำถามกับกรมการค้าต่างประเทศในเวลานี้คือ
#ใครคือคนออกใบสั่งให้ส่งช้างไปต่างประเทศได้ ??? หรือท่านคิดของท่านเอง
การส่งช้างโดยใช้ข้ออ้างในเรื่องการแลกเปลี่ยนสัตว์หรือการสร้างสัมพันธ์ไมตรี หรือแม้กระทั่งการวิจัย คำอ้างนี้มันโบราณคร่ำครึเกินไปที่จะให้สังคมเชื่อได้ เพราะทุกๆคนที่อยู่ในวงการอนุรักษ์สัตว์รู้ดีว่า เมื่อส่งช้างไป ช้างจะต้องกลายเป็นเหยื่อและไม่มีใครไปติดตามดูแลชีวิตความเป็นอยู่อย่างจริงจังตามที่กล่าวอ้าง และการส่งช้าง ได้อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายไปเพื่อทำธุรกิจ เพราะแท้ที่จริงคือเรื่องเงินล้วนๆ
WDT จึงขอเตือนมายังหน่วยงานรัฐให้ทบทวนก่อนเรื่องจะบานปลาย ด้วยความเคารพ Watchdog Thailand องค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ เครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านการค้าสัตว์ข้ามชาติและการทารุณกรรมขอบคุณมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม Save Elephant Foundation อาสาประชาชนเครือข่ายWatchdog Thailand