วันนี้ (18 เม.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ อายุ 21 ปี บนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เพื่อไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และขออำนาจศาลจังหวัดกระบี่ฝากขัง หลังจากจับกุมได้ เมื่อวานนี้ (17 เม.ย.)
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. โดยนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษเดินทางมาท่องเที่ยวสงกรานต์บนเกาะพีพีเพียงลำพัง และเข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ตั้งริมชายหาดโต๊ะลาดัม จากนั้นออกไปท่องเที่ยวตามบาร์และรู้จักกับนักท่องเที่ยวชายชาวไอร์แลนด์ได้ดื่มสุรา ซึ่งผสมขายในถังพลาสติกไป 2 ถัง จนกระทั่งบาร์ปิด จึงได้เดินกลับที่พัก แต่มีอาการเมา ครองสติไม่ได้ เดินต่อไม่ไหว จึงหยุดพักที่ร้านอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งบริเวณริมชายหาดโต๊ะลาดัม และได้หลับไปบริเวณพื้นของร้านทั้ง 2 คน
จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. ผู้ต้องหามีอาชีพเป็นเด็กท้ายเรือมีบ้านพักใกล้กับที่เกิดเหตุได้ใช้มีคัตเตอร์ตัดเป้ากางเกงยีนส์ขาสั้นของผู้เสียหายทำการล่วงละเมิดทางเพศ ผู้เสียหายรู้สึกตัวโวยวาย ผู้ต้องหาวิ่งหลบหนีไป จากนั้น นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเกาะพีพี พบร่องรอยถูกละเมิดทางเพศจริง ชุดสืบสวนพยานต่างๆ ทราบว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเกาะพีพี ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้เมื่อวานนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดฐาน "ข่มขืน กระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น"
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยาสภาพจิตใจผู้เสียหายและสร้างความเข้าใจ รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่สถานทูต สู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมกล่าวชมเชยการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว และยังได้กำชับพนักงานสอบดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ เพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว และนักลงทุนในพื้นที่