วันนี้(15 เม.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดไฟป่าลุกไหม้บนดอยจระเข้ ขุนเขาที่เป็นรอยต่อระหว่าง อ.เมืองเชียงราย กับ อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยไฟได้ค่อยๆ โหมลุกไหม้อย่างหนักบนภูเขาสูงในฝั่ง ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย โดยมองเห็นเปลวไฟในยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจนก่อนที่ไฟจะลามข้ามเขตยอดเขาไปทาง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ทำให้ภูเขาทั้งลูกแดงฉานไปด้วยเปลวไฟ
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่า อาสาสมัคร ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ตลอดจนชาวบ้านนับ 1,000 คน ได้จัดตั้งจุดปฎิบัติการเฉพาะกิจขึ้นที่วัดป่าตึง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อระดมกำลังเข้าไปดับไฟป่าที่ลุกไหม้บนดอยจระเข้ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยไฟป่าลุกไหม้จากพื้นที่ต.ท่าสุด อำเภอเมืองเชียงราย ก่อนจะลุกลามข้ามยอดเขาไปทาง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ซึ่งอยู่ใกล้ชุมชน และโรงพยาบาลแม่จัน ทำให้มีพื้นที่เสียหายกว้างกว่า 1,000 ไร่
ล่าสุดพบว่าเพลิงที่ลุกไหม้อย่างหนักได้เบาบางลง แต่ยังเห็นกลุ่มควุันไฟเกิดขึ้นหลายจุดเกือบทั่วเทือกเขาดอยจระเข้ เจ้าหน้าที่ระบุว่าขณะนี้สามารถควคุมสถานการณ์ให้การเผาไหม้อยู่ในพื้นที่จำกัดได้แล้ว
เหลือเพียงการนำกำลังเข้าไปทำการดับไฟที่ยังไม่มอด เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟปะทุขึ้น หรือลุกลามไปยังพื้นที่อื่น แต่ด้วยเป็นสันเขาสูงอาจต้องใช้เวลาในการดับไฟ
ภาพ: PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
รองแม่ทัพภาคที่ 3 สั่งหามือเผาป่า
พล.ต.บัญชา ดุริยพันธุ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้เข้าควบคุมปฏิบัติการดับไฟ พร้อมกับมอบหมายให้ทางหน่วยทหาร มณฑลทหารบกที่ 37 และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงราย และกองกำลังผาเมือง ได้นำกำลังเข้าประสานงานร่วมกับนางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน เพื่อเร่งสกัดกั้นไฟป่าไม่ให้ลุกลามสู่เขตชุมชน และ เขตป่าของอ.แม่ฟ้าหลวง
นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์เอ็มไอ 17 และเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าสนับสนุนโปรยน้ำทางอากาศ โดยใช้แหล่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำถ้ำเสือที่มีความลึกประมาณ 3-5 เมตรรองรับ
รองแม่ทัพภาคที่ 3 ยังได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามหาตัวคนเผาป่า เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีอย่างเข้มงวด เนื่องจากเป็นสถานการณ์ไม่ปกติ ที่เกิดไฟป่าทั่วจังหวัดพร้อมกัน อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
ภาพ : PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
แนวโน้มฝุ่นพิษ 9 จังหวัดภาคเหนือเริ่มดีขึ้น
ด้านกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานว่าสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือทั้ง 9 จังหวัดดีขึ้น โดยมีค่าลดลงเกือบทุกพื้นที่ ยกเว้นที่ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ฝุ่น PM2.5 115 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลดลงจากวานนี้ (14 เม.ย.) 183 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทั้ง 9 จังหวัด หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ที่ได้ช่วยกันแก้ไขปีญหา รวมทั้งอาสาสมัครที่ได้ต่อสู้ ส่วนหนึ่งแลกกับชีวิตเพื่อป้องกันไฟป่า
ภาพ:กรมควบคุมมลพิษ