กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เข้ารับทราบ 3 ข้อกล่าวหาที่สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา คือ ร่วมกันยุงยงปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, ให้การช่วยเหลือผู้กระทำความผิดหลบหนี ตามมาตรา 189 และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 และระบุว่ามีข้อกังวลใจเรื่องที่ไม่ได้ขึ้นศาลพลเรือน แต่เป็นการขึ้นศาลทหาร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "ธนาธร" รับทราบ 3 ข้อหา ทูตต่างชาติร่วมสังเกตการณ์
วันนี้ (8 เม.ย.2562) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า กรณีที่นายธนาธร กังวลที่ต้องขึ้นศาลทหารว่า กฎหมายมีผลบังคับใช้กับคนทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่แยกแยะว่าคนนั้นจะเป็นผู้เห็นต่าง หรือจะเป็นผู้เห็นด้วย ดังนั้นเมื่อมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น บุคคลนั้นก็ต้องยอมรับผลของการกระทำของตัวเอง เพราะไม่มีใครไปบังคับให้กระทำผิดได้
ขอทำความเข้าใจว่าไม่ใช่ผู้เห็นต่างที่ต้องขึ้นศาลทหาร แต่คนที่ถูกนำคดีไปฟ้องศาลทหาร เป็นผู้ต้องหากระทำความผิดในช่วงปี 57-58 ซึ่งระบุอยู่ 4 ประเภทของกลุ่มงานความมั่นคง ที่กำหนดให้ไปฟ้องคดีที่ศาลทหารเท่านั้น
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ทั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะทุกศาล จะพิจารณาตามตัวบทกฎหมายภายใต้บรรทัดฐานเดียวกัน และตรงนี้อยู่ที่ความเชื่อส่วนบุคคลด้วย เพราะบางบุคคลเคยให้ข้อมูลทำนองก้าวล่วงศาลอื่นเช่นกัน ไม่ใช่เฉพาะศาลทหารเท่านั้น เรื่องแบบนี้น่าจะอยู่ที่ความเชื่อ ความกังวลเฉพาะตัวส่วนบุคคล ไม่น่าใช่ที่องค์กรไหน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไอลอว์ ชี้ คสช.แจ้งความ "ธนาธร" ผิดท้องที่ ส่อยกฟ้อง?