การรวมตัวในวันนี้ เป็นการชักชวนของนายถาวร เสนเนียม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดกับว่าที่ ส.ส. อดีตผู้สมัคร ส.ส. และผู้สมัครที่ต้องลงสนามอีกครั้งโดยบอกว่าไม่มีการกำหนดประเด็น ซึ่งเบื้องต้น นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตผู้สมัคร ส.ส. และอดีตผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็จะเข้าร่วมแลกเปลี่ยนด้วย
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 พิษณุโลก โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า เช้านี้กำลังจะเดินทางไปพรรค วันนี้มีการปรึกษาหารือวาระพิเศษ ทุกคนเป็นเจ้าภาพร่วม รวบรวมความคิดเห็น เพื่อไปสู่การปฏิรูปพรรค ซึ่งเขาจะนำเสนอใน 3 ประเด็นคือ
1.กติกาที่เปลี่ยนใหม่คือบัตรใบเดียว มีชื่อพรรคและโลโกพรรค ที่ไม่เหมือนเดิม ที่เป็นบัตร 2 ใบ แยกเลือกพรรคและเลือกคน เพราะครั้งนี้บัตรใบเดียวเท่ากับการเลือกพรรค เราต้องปรับตัวเองไปอีกแบบหนึ่งให้สอดคล้องกับกติกาใหม่
2.ทิศทางของพรรคตลอดจนจุดยืนหลักของพรรคว่า ใครคือเป้าหมายที่เราต้องสู้ 3.ยุทธศาสตร์มวลชนที่พรรคจะต้องสร้างขึ้นมาตามเกมส์ของตนเอง ท่ามกลางกระแสคนรุ่นใหม่ พร้อมระบุว่าเปิดรับข้อเสนอดี ๆ ฝากผ่านมาเพื่อนำไปแลกเปลี่ยนในวงพูดคุย ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 9.30 น. - 12.00 น. โดยไม่ทราบว่าบทสรุปจะออกมาอย่างไร
ขณะที่วานนี้ (4 เม.ย.62) นายถาวร เสนเนียม ว่าที่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ส่งข้อความเข้าไปในไลน์กลุ่มของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ เพื่อเชิญชวนมาพูดคุยหารือในวันนี้ เวลา 09.30น. ที่อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ชั้น 3 ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการเชิญชวน ส.ส.ทุกคน ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นบุคคลใด โดยจะเป็นการพูดคุยหารือแนวทางของพรรคว่าทิศทางในอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่ลักษณะการจัดกิจกรรมของพรรคอย่างเป็นทางการ ไม่มีใครมานั่งเป็นประธาน แต่จะเป็นการพูดคุยหารือ และรับฟังข้อเสนอ
การนัดหมายหารือระหว่างกลุ่ม ส.ส.เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความเห็นในพรรคประชาธิปตย์ แบ่งเป็นหลายขั้ว ทั้งความเห็นว่าควรเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ การเป็นฝ่ายค้าน หรือกระทั่งฝ่ายค้านอิสระ ซึ่งเป็นข้อเสนอของกลุ่ม "นิว เด็ม" สมาชิกรุ่นใหม่ของพรรค ซึ่งเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.62) นพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ หรือ หมอเอ้ก อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่ม New Dem ก็ได้กล่าวถึงแนวคิดฝ่ายค้านอิสระว่า เป็นอีกแนวทางที่ทำประโยชน์ให้ประเทศได้ หากนโยบายไม่ตอบโจทย์แนวทางพรรคก็ไม่ยกมือให้ แต่หากเป็นประโยชน์ก็ยกมือโหวตสนับสนุน ไม่จำเป็นต้องค้านทุกเรื่อง
ส่วนการร่วมรัฐบาลมีการแบ่งเค้ก อาจได้เป็นเจ้ากระทรวง แต่สุดท้ายนโยบายก็ต้องผ่านรัฐบาล หากไม่เห็นด้วยก็โดนขับออกจากรัฐบาล เกิดความวุ่นวายต่อ ฝ่ายค้านสร้างสรรค์ทำให้รัฐบาลต้องฟังเรามากขึ้นในการผลักดันนโยบาย ยิ่งเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยมากเท่าไหร่ เสียงฝ่ายค้านอิสระยิ่งมากขึ้นเท่านั้น