วันนี้ (29 มี.ค.2562) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ภาคเหนือยังประสบวิกฤตปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินมาตรฐาน ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ โดยกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคหัวใจ และกลุ่มเด็กซึ่งช่วงนี้ปิดเทอม ทำให้เด็กมีเวลาทำกิจกรรมนอกบ้านเพิ่มมากขึ้น เช่น การวิ่งเล่น กระโดด ปีนป่าย ทั้งที่สนามเด็กเล่น สนามกีฬา และลานกิจกรรม พ่อแม่ ผู้ปกครองควรตรวจสภาพอากาศ หากมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินมาตรฐาน ควรเปลี่ยนให้เด็กทำกิจกรรมในบ้านแทน หากเลี่ยงไม่ได้ ควรให้เด็กสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองทุกครั้งเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากปอดของเด็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ อัตราการหายใจถี่กว่าผู้ใหญ่ และเด็กยังมีภูมิต้านทานต่ำ โอกาสที่เด็กจะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็กจึงมากกว่าผู้ใหญ่
ทั้งนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรสังเกตอาการผิดปกติของเด็ก เช่น ระคายเคืองผิวหนัง แสบตา แสบจมูก น้ำมูกไหล ไอ คอแห้ง เจ็บคอ หายใจลำบาก อึดอัดแน่นหน้าอก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียน หากพบอาการดังกล่าว ให้รีบพาไปพบแพทย์ หรือไปที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ให้เด็กดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อวัน กินผักผลไม้ และดูแลบ้านให้สะอาด สำหรับเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดและหรือโรคหัวใจให้พกยาติดตัวเสมอ