วันนี้ (29 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ประชุมกันนัดแรกหลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อพิจารณารับรองงบดุลปี 2561 ของพรรค และการจัดงานวันเกิดพรรคครบรอบ 73 ปี ในวันที่ 6 เม.ย.นี้ รวมถึงหารือกันถึงแนวทางการเลือกหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน
คาดว่าที่ประชุมจะหารือถึงแนวทางการกำหนดบทบาททางการเมืองของพรรคว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยข้อบังคับพรรคข้อ 96 กำหนดให้ที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น เป็นผู้ลงมติว่าจะจัดตั้งหรือร่วมรัฐบาล หรือถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ รวมถึงข้อเสนอของกลุ่มของนายถาวร เสนเนียม ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา และผู้สมัคร ส.ส.อีกว่า 20 คนที่ให้ยกเว้นการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคและให้ใช้วิธีหารือกันเพื่อความเป็นเอกภาพในพรรค ซึ่งข้อเสนอของกลุ่มนายถาวรเป็นข้อเสนอที่ทุกฝ่ายมีสิทธิ์เสนอในคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งสิ้น
ถาวร เสนเนียม
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนการประชุมถึงความเป็นไปได้ที่มี 3 แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะเป็นรัฐบาล เป็นรัฐบาลอย่างมีเงื่อนไข หรือเป็นฝ่ายค้านอิสระ แต่ขณะนี้ยังไม่มีมติใดจากคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งความเห็นที่ออกมาในขณะนี้เป็นความเห็นส่วนตัว หากมีการเจรจาใดๆ เกิดขึ้นไม่ถือว่าเป็นการยอมรับจากคณะกรรมการบริหารพรรค ส่วนเรื่องการตัดสินใจน้น โดยหลักการแล้วควรเป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และ ส.ส.ที่ได้รับการรับรองผล
ส่วนแนวทางการเลือกหัวหน้าพรรค นายอลงกรณ์มองว่า การหยั่งเสียงยังเป็นแนวทางที่ถูกต้องที่สุดของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ควรยกเลิกหรือยกเว้น ไม่เช่นนั้นจะนำพาพรรคย้อนไปสู่อดีตที่เป็นการเมืองแบบปิด แต่ทั้งนี้ต้องมีการปรับปรุงวิธีการโหวต พร้อมเสนอวิธีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์ใน 4 ภาค รวมถึงกรุงเทพมหานคร และให้สมาชิกแสดงความคิดเห็นโดยตรงผ่านไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย ซึ่งง่ายกว่าการโหวต เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่มีระบบใดที่มีความมั่นคงหรือมีเสถียรภาพ จึงอยากให้การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งนี้เปิดกว้างที่สุด ซึ่งเชื่อว่าครั้งนี้จะมีคนรุ่นใหม่ลงสมัครชิงตำแหน่งด้วยและจะเหมือนปรากฏการณ์อนาคตใหม่ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา
อย่าปิดประตูตีแมวเอาเพียงเฉพาะกลุ่ม ไม่เช่นนั้นประชาธิปัตย์จะเริ่มต้นด้วยการกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด และประชาชนจะไม่ให้โอกาสแก้ตัว
ส่วนจะตัดสินใจลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่ายังไม่ได้ตัดสินใจ แต่คนเป็นหัวหน้าพรรคควรมีคุณสมบัติ 5 ข้อคือ เป็นนักปฏิรูปอย่างแท้จริง, มีประสบการณ์การบริหาร, มีอุดมการณ์ที่มั่นคงต่อแนวทางของพรรค, เปิดกว้าง และไม่อยู่ในสังกัดของใคร เป็นคนของสมาชิกพรรคอย่างแท้จริง
"พริษฐ์" ชี้พรรคประชาธิปัตย์ควรเป็น "ฝ่ายค้านสร้างสรรค์"
ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกคือ การยึดมั่นในคำพูดที่เคยให้ไว้กับประชาชน ซึ่งเป็นที่มาของคะแนน 3.9 ล้านเสียงที่ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากมีผู้สนับสนุนหลายคนพร้อมเลือกหลังจากที่พรรคประกาศว่าไม่เอาฝ่ายทุจริต ไม่เอาการสืบทอดอำนาจ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาสัจจะ อีกทั้งยังต้องซื่อตรงกับอุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตย ด้วยการเป็นฝ่ายค้านสร้างสรรค์ ไม่ว่าใครจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ตาม ซึ่งเห็นว่าซื่อตรงกับอุดมการณ์ของพรรคมากที่สุด
นายพริษฐ์ ยังระบุอีกว่า ทราบว่ามีสมาชิกบางส่วนอยากให้ไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งหากจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่นายอภิสิทธิ์เคยประกาศไว้ อย่างน้อยที่สุดจะต้องมีกระบวนการหยั่งเสียงว่าต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงทิศทางของพรรคหรือไม่ เพราะหากเปลี่ยนทิศทางโดยไม่มีการสอบถามความเห็นสมาชิก หรือเสียงกว่า 3.9 ล้านเสียงที่ได้มา คิดว่าจะเป็นเรื่องอันตราย