หากมองผิวเผินหลายคนก็แทบจะไม่รู้ว่า รถกระบะที่จอดไว้ภายในวัดป่าโค เขตเทศบาลพระนครศรีอยุธยา คือ รถแห่หาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส. เพราะท้ายรถกระบะ เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ไม่ต่างจากบ้านหลังหนึ่ง
ลุงเล็ก หรือ นายประสพ ชาวเมืองปราจีนบุรี เจ้าของรถแห่ เปิดเผยกับทีมข่าวไทยพีบีเอสว่า ยึดอาชีพขับรถแห่โฆษณามาไม่ต่ำกว่า 30 ปี
หากเป็นช่วงเวลาปกติจะรับจ้างแห่โฆษณาบริษัทห้างร้านต่างๆ แล้วแต่จะมีงานเข้ามาและหากช่วงไหนมีงานมากจะต้องนำภรรยาและหลานมาด้วยอาศัยนอนวัดบริจาคค่าน้ำค่าใช้ช่วยวัด
โดยเฉพาะช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่จะมีงานเข้ามาจากผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ทำให้ลุงเล็กต้องอาศัยกินนอนในรถแบบนี้มานานเกือบ 2 เดือนแล้ว
ลุงเล็ก บอกว่า รายได้ในแต่ละวันช่วงหาเสียงเลือกตั้งไม่ได้มีมากนักต่อวันอยู่ที่ 800 บาท แต่ไม่เกินหลักพันบาท เริ่มวิ่งตั้งแต่ 8.30 -17.00 น ตามเส้นทางที่รับผิดชอบ
ถ้าเราติดต่อถูกพรรคถูกคน จะมีรายได้ตลอด โดยจ่ายเป็นสัปดาห์ สมมติว่าวันละ 1,000 บาท เขาก็จะจ่ายเราหมดเลย และวันที่ 23 มี.ค.ก็จะเป็นวันสุดท้าย
อาชีพรถแห่ทำให้ลุงเล็กสามารถเลี้ยงลูกหลานให้มีชีวิตกินดีอยู่ดี แม้ลูกจะขอให้หยุดทำอาชีพนี้เพราะต้องตระเวนไปตามจังหวัดต่างๆ แต่ลุงเล็กยืนยันว่าจะทำจนกว่าจะหากินไม่ไหว
ทีมข่าวยังติดตามชีวิตรถแห่หาเสียงของนายสุรศักดิ์ โชคกิจ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เจ้าของรถแห่บอกว่า อาชีพนี้ไมได้รายได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนที่หลายคนเข้าใจ แม้ 2 เดือนนี้ การเมืองจะคึกคัก
แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือรถแห่ไม่ใช่จำนวนเงิน เพราะราคาจ้างเหมารถแห่ต่อวันสูงสุด 1,500 บาทเท่านั้น บางคนถูกกดราคาเหลือ 800 บาท ก็มีอย่างเขาได้รับค่าจ้างวันละ 1,300 บาท แต่ก็มีข้อแม้ข้อตกลงกับผู้สมัครว่า ต้องจ่ายเงินสดเท่านั้น เพราะกลัวจะถูกโกง
ราคาเช่าเท่าเดิมนะ บางที่อาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ จากที่เคยวิ่ง 1,200 บาทต่อวัน ก็จะมีการตกลงให้วันละ 800 บาท เพราะเป็นการวิ่งงานยาว ถามว่าเอาไหมก็เอา
18.00 น วันนี้ (23 มี.ค.) คือวันสิ้นสุดการหาเสียงเลือกตั้งหลังจากนี้จ้างงานรถแห่ก็จะไม่ได้มีเข้ามาทุกวัน ทำให้เจ้าของรถแห่ บอกว่า ต้องทำอาชีพเสริมอย่างอื่นทำ เช่น ตัดสติ๊กเกอร์ขายควบคู่ไปด้วย หวังเป็นรายได้อีกทางเลี้ยงดูครอบครัว เพื่อรองานจ้างจากห้างร้านต่างๆเข้ามาใหม่