วันนี้( 24 ก.พ.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สนามเลือกตั้งจังหวัดตรัง แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงฐานคะแนนเสียง ของพรรคประชาธิปัตย์มายาวนาน แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กลับมีการแข่งขันที่สูสีมากขึ้น เนื่องจากพรรคการเมืองคู่แข่ง ได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีทั้งในเรื่องตัวบุคคลที่ลงสมัคร รวมถึงนโยบายพรรคที่พยายามให้ประชาชนจับต้องได้เพื่อดึงคะแนนเสียงจากประชาชน
ป้ายหาเสียงของนายโชคดี คีรีกิ้น ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จ.ตรัง จากพรรคพลังท้องถิ่นไทย ถูกนำมาติดตั้งคู่กับป้ายหาเสียงของ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการเปิดหน้าสู้กับนายสาธิตย์ เจ้าของที่นั่งเดิมแบบไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรี พร้อมเร่งลงพื้นที่หาเสียงแบบค่ำไหนนอนนั่น รับรู้ปัญหาของชาวบ้านแบบถึงลูกถึงคน
ขณะที่ นพ.วิโรจน์ ทองโอเอี่ยม ผู้สมัครจาก พรรคพลังประชารัฐ แม้จะไม่เคยอยู่ในเวทีการเมือง แต่กลับอยู่ในใจของชาวบ้านมายาวนาน เพราะเก็บค่ารักษาถูกมาก จนเป็นที่เลื่องลือ ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากนายทวี สุระบาล อดีต ส.ส.ตรังหลายสมัย ทำให้นายแพทย์วิโรจน์ เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่ง ส.ส. เขต 2 อีกคนหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัววาดหวัง จะทำการเมืองแนวใหม่ให้ประชาชนจับต้องได้

ชูนโยบายประกันราคายาง-ปาล์มน้ำมัน
โดยวันนี้ นายสาทิตย์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ใช้รถสองแถวไม้โบราณตระเวนไปทุกตรอกซอกถนน เพื่อตอกย้ำนโยบายประชาชนต้องมาก่อน ควบคู่กับการประกันราคายางพารา 60 บาท ต่อกิโลกรัมปาล์มน้ำมัน 4 บาทต่อกิโลกรัม และเห็นว่าวาทกรรมเปลี่ยน ของพรรคการเมืองคู่แข่ง ไม่สามารถเปลี่ยนใจคนใต้ และคนจังหวัดตรังไปจากพรรคประชาธิปัตย์
สนามการเลือกตั้งจังหวัดตรังในครั้งนี้ มีการแข่งขันที่สูสีมากขึ้น โดยเขต 1 เชื่อว่าเป็นการแข่งขันของ 2 พรรคการเมือง คือ นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพันธ์ ศิริธร พรรคพลังประชารัฐส่วนเขต 3 เชื่อว่าเป็นศึกของคนในตระกูล โล่สถาพรพิพิธ โดยมี น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีคู่แข่งคือ นายดิษฐ์ธนิน ภาคย์อิชณน์ จากพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ นายดิษฐ์ธนิน มีศักดิ์เป็นพี่ชายของน.ส.สุณัฐชา
ส่วนผู้สมัครจากพรรคกรีน ธวัฎน์ ว่องวรานนท์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดตรัง พรรคกรีน ซึ่งถูกมองว่าเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก ยอมรับว่าเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การได้รับเลือกเป็น ส.ส. แต่อยู่ที่การได้ส่งต่อนโยบายที่ดีของพรรคกรีนไปถึงมือประชาชนโดยเฉพาะนโยบายต้นไม้เป็นทรัพย์สิน

เชื่อพรรคการเมืองภาคประชาชนเป็นก้าวสำคัญ
ด้านเครือข่ายภาคประชาชนนายพิศิษฐ์ ชาญเสนาะ นายกสมาคมหยาดฝน จ.ตรัง มองว่าในรอบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมาประชาชนตระหนักรู้ถึงสิทธิของตัวเอง และมีการรวมตัวเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อปกป้อง และผลักดันการแก้ปัญหาเชิงนโยบายมากขึ้น และบางกลุ่มได้รวมตัวจัดตั้งเป็นพรรคการเมือง การเลือกตั้งครั้งนี้ จึงเป็นพัฒนาการครั้งสำคัญของภาคประชาชนเช่นกัน
การรวมกลุ่มที่เข้มแข็งของภาคประชาสังคม และกลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาของรัฐ
ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาของประชาชนมากขึ้น เนื่องจากในขณะนี้ภาคประชาสังคมหลายกลุ่มมีการเชื่อมร้อยถึงกัน ส่งผลให้มีพลังทางการเมือง โดยเฉพาะในห้วงการเลือกตั้ง ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีผลต่อทุกพรรคการเมือง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลือกตั้ง 2562: พรรคอนาคตใหม่ รับอาสาสมัครสังเกตการณ์เลือกตั้ง 350 เขต
"ชาติไทยพัฒนา" หาเสียง "หนองบัวลำภู-ชัยภูมิ" ขายนโยบาย "ธนาคารต้นไม้"