วันนี้ (1 ก.พ.2562) เวลา 07.00 น. กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ พบว่า ฝุ่นละออง PM 2.5 มีค่าเกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.ลำปาง ลำพูน แพร่ และตาก
ขณะที่เมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง จัดชุดอุปกรณ์ดับเพลิงควบคุมระยะไกล หรือหุ่นยนต์พ่นน้ำ ทำการฉีดพ่นละอองน้ำ ที่สวนสาธารณะเขลางค์นคร อ.เมืองลำปาง เพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควัน ซึ่งขณะนี้ค่าฝุ่นละอองในอากาศเกินมาตรฐานในหลายจังหวัดภาคเหนือตอนบน ทั้งนี้เตรียมเข้าไปดำเนินการกับชุมชนอื่นๆด้วย
ขณะที่ จ. ลำพูน บริเวณสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน วัดได้สูงถึง 155 มคก./ลบ.ม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเร่งหารือเพื่อวางมาตรการป้องกันและแก้ปัญหา โดยกำหนดมาตรการเช่นตรวจสอบคุณภาพอากาศของโรงงานอุตสาหกรรม ขอความร่วมมือชาวบ้านและผู้ประกอบการ รวมถึงให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดปริมาณฝุ่น
เช่นเดียวกับที่ จ.ตาก ค่าฝุ่นละอองยังเกินมาตรฐานทำให้ประชาชนและผู้สูงอายุ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และเริ่มมีอาการป่วยทางระบบทางเดินหายใจ แน่นหน้าอกและแสบตา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สมพร จันทระ หัวหน้าศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุพบสารก่อมะเร็ง 16 ชนิด จากการเผาชีวมวลในพื้นที่เกษตร โดยสถานการณ์ฝุ่นภาคเหนือขณะนี้วิกฤตกว่าในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ ที่เผชิญกับปัญหามาว่า 10 ปีแล้ว