วันนี้ (28 ม.ค.2562) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เปิดเผยแนวทางพัฒนานโยบายพรรค และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตกรุงเทพมหานคร 30 เขต โดยชูนโยบาย "แบงกอก โน พร็อบเบลม" ซึ่งกรุงเทพฯ ทุกวันนี้มีปัญหาฝุ่น, สิ่งแวดล้อม, น้ำเสีย, ขยะ, สวนสาธารณ และพื้นที่สีเขียวไม่เพียงพอ, การจราจรติดขัด, ความไม่ปลอดภัย และไม่มีความสมดุล แตกต่างจากต่างประเทศที่เกิดความสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ, สิ่งแวดล้อม, การจราจร และบริการขนส่ง ให้เกิดความสมดุล ทุกอย่างต้องสอดคล้องกัน โดยพรรคชาติพัฒนาได้ผลักดันกรุงเทพฯ ให้เกิดความสมดุล ด้วยการคิดร่างนโยบาย 9 ด้าน ได้แก่
1. Clean City อากาศบริสุทธิ์ เพราะปัจจุบัน กรุงเทพฯ มีปัญหาเรื่องฝุ่น ซึ่งเป็นเมืองหลวง นอกจากกระทบเศรษฐกิจแล้ว ยังกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนในกรุงเทพฯ ซึ่งฝุ่นเกิดจากการกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการคมนาคม แต่ไม่ใช่เป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ ซึ่งวิธีจัดการต้องดำเนินมาตรการระยะยาว เช่น สนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก เพื่อลดมลพิษฝุ่นจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน, การเร่งรัดก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนทั่วถึง และพื้นที่ไหนที่ระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง อาจต้องพิจารณาเส้นทางก่อสร้างเพิ่มเติม, มาตรการเอาผิดกับรถที่ก่อควันดำในกรุงเทพฯ และการปรับปรุงเทศบัญญัติ สำหรับงานก่อสร้างที่ต้องมีข้อเสนอเรื่องจัดการเรื่องฝุ่นในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ต้องเข้มงวดเรื่องฝุ่น ซึ่งจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้อย่างดี, การจัดการผังเมืองให้เหมาะสม, การใช้น้ำมัน "ยูโร5" เพื่อลดปัญหามลพิษ รวมถึงการส่งเสริมพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ตามครัวเรือน ถ้าทำได้ จะช่วยแก้ปัญหาฝุ่นได้ตั้งแต่ต้นทาง
2. Smart Environment จะส่งเสริมให้มีสวนสาธารณะเพิ่มขึ้น, การจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย, การพัฒนาคูคลองในกรุงเทพฯ, กรุงเทพฯ ต้องไม่มีขยะ ทำขยะเหลือศูนย์ (Zero Waste) เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองสิ่งแวดล้อม ถ้ามีขยะต้องจัดการ
3. Smart mobility การขนส่งที่ทันสมัย คือการเดินทางที่รถไม่ติด การใช้เทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกการปลอดภัย เพื่อแก้ปัญหาจราจรทั้งระบบรถ-ราง-เรือ เป็นตั๋วร่วม ตั๋วเดียวไร้รอยต่อ
4. Smart Economy เกิด Paradise of Street Food ตามแนวโครงการ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ทำให้คนมีรายได้ต่ำ-ปานกลาง เกิดอาชีพ และเป็นจุดเสริมด้านการท่องเที่ยวที่จะเป็นจุดแข็ง, เชื่อมชุมชนต่างๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก เชื่อมโอทอปในกรุงเทพฯ ให้มีจุดเด่น มีแอปพลิเคชัน-นวัตกรรมที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกรุงเทพฯ มากขึ้น
5. Smart Governance คือการเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการสาธารณะด้วย Easy Bangkok application ซึ่งการดำเนินธุรกรรมต่างๆ จะทำให้ประชาชน ไม่ต้องไปที่สำนักงานเขตได้หรือไม่ เพราะอีก 2 ปี ประเทศไทยจะมีระบบ 5G จะทำให้เกิดการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของคนในกรุงเทพฯ
6. Smart People คือการยกระดับศูนย์กีฬา-ศูนย์เยาวชน ลานกีฬาต่างๆ เพื่อยกระดับพัฒนานักกีฬา สู่ความเป็นเลิศ จะส่งเสริมให้คนกรุงเทพฯ เล่นกีฬา และผลักดันให้เกิดมินิสปอร์ตคอมเพล็กซ์ย่อส่วน, จัดแข่งขันกีฬา โดยดึงนักกีฬาระดับชาติ หรือระดับโลกมาแข่งด้วย เพื่อผลักดันให้คนกรุงเทพฯ เกิดแรงบันดาลใจในการเล่นกีฬา และยังทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองสีขาว ปราศจากยาเสพติดไปด้วย
7. Smart Living คือสร้างความปลอดภัย และความสะดวกตลอดการเดินทาง เน้นการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ให้ทั่ว และเชื่อมโยง CCTV ของบริษัทเอกชนและหมู่บ้านจัดสรร เพื่อร่วมกันดูแลหรือเฝ้าระวังด้านความปลอดภัย หรือติดตามตัวได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆ การจัดการทางเท้า-ลิฟท์ สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ ให้เกิดความเป็นสมาร์ทลีฟวิ่งด้วย
8. Smart Energy คือการยกระดับการใช้ประโยชน์พลังงาน ด้วยโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ และการผลักดันให้เกิดระบบสายส่งไฟฟ้าอัจฉริยะ จากการใช้โซลาร์เซลล์ เพื่อสนับสนุนให้ครัวเรือนต่างๆ ในกรุงเทพฯ สามารถจำหน่ายไฟฟ้าขายได้ด้วย
9. Smart All คือการผลักดันฟื้นฟูคลองในกรุงเทพฯ ให้เป็นเวนิสตะวันออก เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีระบบจัดการบำบัดน้ำเสีย มีพื้นที่สีเขียว
"ทั้ง 9 เรื่องเป็นร่างนโยบาย ที่พรรคชาติพัฒนาคิดค้นขึ้น ซึ่งกรุงเทพฯ ต้องเป็นเมืองท่องเที่ยว ต้อนรับนักลงทุน เป็นเมืองเศรษฐกิจ เมืองสีเขียว คนกรุงเทพฯ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น"
นอกจากนี้ ทางพรรคชาติพัฒนายังได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 30 เขตในวันนี้ พร้อมร่วมกันทำสัญลักษณ์ "โน พร็อบเบลม" ซึ่งเป็นวลี ที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่าไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใด ก็ไม่มีปัญหา
สำหรับการเปิดตัวผู้สมัครทั่วประเทศ และนโยบายพรรค ทางพรรคชาติพัฒนา จะเปิดตัวและแถลงเป็นทางการในวันที่ 31 มกราคม 2562