วันนี้ (6 ธ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดสัมมนาแนวการรับสมัครสมาชิกภาคกลาง โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค เป็นประธาน พร้อมด้วยแกนนำพรรค ร่วมชี้แจง ได้แก่ นายสุชาติ ตันเจริญ นายอนุชา นาคาศัย นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ และนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค
นายสุริยะ กล่าวว่า เตรียมจัดทำนโยบายที่ตอบสนองประชาชนเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงและที่นั่ง ส.ส.ในรัฐสภามากที่สุด และมั่นใจว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วเสร็จจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยมีพรรคต่างๆ มาร่วมด้วย แม้ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะปฏิเสธจับมือร่วมจัดตั้งรัฐบาล และผลักดัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
ถึงแม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช.ที่เลือก ส.ว. 250 คน ซึ่งมีสิทธิ์ในการร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น แต่หากได้เสียง ส.ส.ไม่ถึงกึ่งหนึ่งก็ไม่สามารถอยู่ได้ ซึ่งการมี ส.ว.เข้ามาไม่คิดว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้เปรียบ
พร้อมระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากตัดสินใจมาทำงานการเมืองด้วยตัดสินใจมาเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ โดยอ้างอิงถึงธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมาในอดีต และย้ำถึงความจำเป็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องบริหารประเทศต่อ ก่อนจะตอกย้ำความเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความซื่อสัตย์ที่ประชาชนยอมรับได้
นายสุริยะ กล่าวว่า มีความพยายามที่จะจุดกระแสการแบ่งแยกระหว่างพรรคประชาธิปไตยและพรรคที่สนับสนุนเผด็จการที่อ้างอิงถึง พล.อ.ประยุทธ์ โดยเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจดีต่อเจตนาของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เข้ามาจัดการแก้ไขสถานการณ์ในอดีตที่เกิดความแตกแยกขัดแย้ง
นายสุริยะ ย้ำถึงเป้าที่นั่ง ส.ส.150 คน ที่พรรคจะได้ในทั่วประเทศ แบ่งเป็นภาคอีสานราว 60 คน ภาคกลางอีกราว 40 คน โดยเชื่อมั่นว่าพื้นที่ภาคเหนือคะแนนสูสี แม้จะเป็นฐานเสียงเก่าของพรรคเพื่อไทย รวมถึงภาคอีสาน แต่ยอมรับว่าพื้นที่ภาคใต้อาจจะยาก ด้วยเป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่พรรคจะสานต่อนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันบางส่วน เช่น บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ก่อนจะย้ำเรื่องนโยบายพรรคที่จะทำมากกว่ารัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร ที่เคยทำนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรคและกองทุนหมู่บ้าน
ส่วนเรื่องโพลคะแนนนิยมของรังสิตโพลที่ออกมาเป็นเรื่องการสำรวจของสำนักโพล แต่ส่วนตัวเชื่อว่าหากผู้สมัครของพรรคลงพื้นที่อย่างเข้มข้น และชี้แจงกับประชาชนต่อสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดำเนินการจะส่งผลให้ความนิยม พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้แสดงเจตจำนงลงทำงานการเมืองกับพรรคใด
ทั้งนี้ การสัมมนาพรรควันนี้ พรรคเน้นการชี้แจงต่อผู้แสดงเจตจำนงในการลงรับสมัครเลือกตั้งเกี่ยวกับการดำเนินการกิจกรรมของพรรคให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้