วันนี้ (28 ส.ค.61) นายอำพล ฤทธิ์มณี ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสว่า แม้ขณะนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา จะมีน้ำใช้การเพียงร้อยละ 30 แต่สูงกว่าเกณฑ์ควบคุม 29 ล้าน ลบ.ม. ประกอบกับมีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ปทุมธานี กรมชลประทานได้เตรียมรับมือฝนตกหนักเดือนสิงหาคมถึงกันยายนแล้ว ด้วยการพร่องน้ำลงสู่แม่น้ำป่าสักผ่านเขื่อนพระราม 6 เนื่องจากเขื่อนป่าสักฯ เป็นเขื่อนขนาดกลาง จุน้ำได้เพียง 960 ล้าน ลบ.ม. หากฝนตกหนักจะทำให้น้ำล้นเขื่อน และสร้างผลกระทบกับชุมชนที่อยู่ท้ายเขื่อนพระราม 6
ทั้งนี้ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เริ่มระบายน้ำแล้วในอัตรา 300 ลบ.ม ต่อวินาที และคาดว่าจะระบายน้ำอยู่ในระดับ 450-500 ลบ.ม ต่อวินาที ส่วนอัตตราการระบายน้ำระดับวิกฤต หรือธงแดง จะอยู่ที่ 550 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งจะควบคุมไม่ให้เกินระดับวิกฤต อาจกระทบประชาชนริมแม่น้ำป่าสัก อ.พระนครศรีอยุธยา อ.เสาไห้ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ท้ายเขื่อนพระราม 6 คาดว่าน้ำจะเพิ่มสูงไม่เกิน 1.20 เมตร
นายอำพล ชี้แจงว่ายังไม่มีกำหนดว่าจะระบายกี่วัน ยืนยันว่าไม่ใช่ภาวะวิกฤต เพราะช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามีปริมาณน้ำมากกว่านี้ แต่ปีนี้เป็นการเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำฝนจากภาคเหนือเท่านั้น ขอให้ประชาชนอย่าวิตกังวล และติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด