หลังจากลงพื้นที่ภาคอีสานเพื่อพบปะพูดคุยกับอดีต ส.ส. ร่วมกับแกนนำกลุ่มสามมิตร นายสิระ เจนจาคะ แนวร่วมกลุ่มสามมิตร เปิดเผยว่า ได้แลกเปลี่ยนความเห็นทางการเมืองทั่วๆ ไป ซึ่งเป็นประโยชน์ส่วนรวมของคนในชาติเท่านั้น โดยส่วนตัวได้ก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมือง หรือการแบ่งแยกสีเสื้อ เพราะทุกคนคือคนไทยด้วยกันที่จะต้องรวมมือร่วมใจให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
"สิระ" ชี้จุดอ่อนเพื่อไทย เสี่ยงถูกยุบพรรค อดีต ส.ส.ซบกลุ่มสามมิตร
นายสิระ ยังระบุถึงเหตุผลสำคัญที่ทำให้อดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคอีสานปี 2554 จำนวนกว่า 30 คน ตัดสินใจมาร่วมงานการเมืองกับกลุ่มสามมิตร และพรรคพลังประชารัฐ คือ เรื่องคดีความที่สุ่มเสี่ยงเกิดการยุบพรรคเพื่อไทยที่มีหลายเรื่องอยู่ในการพิจารณาของ กกต.แม้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะประกาศแสดงความมั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง โดยชี้ว่าข้อมูลที่นายทักษิณได้รับรายงานนั้นอาจเป็นข้อมูลเก่าที่ได้จากคนที่ต้องการเอาใจเท่านั้น อีกทั้งนายทักษิณเองยังเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีในต่างประเทศ รวมถึงโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลน้อยมาก หรืออาจได้เป็นเพียงฝ่ายค้าน
ส่วนจุดแข็งของพรรคพลังประชารัฐ นายสิระ ระบุว่า เป็นพรรคที่นับเป็นมิติใหม่ทางการเมือง ที่มุ่งหน้าสร้างความปรองดอง และยังเตรียมพร้อมสำหรับการรับเรื่องที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องอูเบอร์ หรือ แก็บแท็กซี่ ให้กลุ่มผู้ขับแท็กซี่ ด้วยการเสนอให้รัฐบาลออกเงินดาวน์รถให้ผู้ขับแท็กซี่และให้ผู้ขับผ่อนจ่ายต่อรัฐบาล หรือ คล้ายโครงการรถคันแรก
ทั้งนี้ กลุ่มสามมิตร เข้าไปทำพิมพ์เขียวในการปฏิรูปเพื่อส่งรัฐบาลชุดนี้ดำเนินการแก้ไข และส่งให้รัฐบาลชุดต่อไปเข้ามารับช่วงต่อและมั่นใจว่าการลงพื้นที่ของกลุ่มสามมิตรที่จะร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐจะไม่ส่งผลต่อการจัดตั้งพรรค เพราะถือว่าเป็นการดำเนินการในฐานะบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคใด และได้ยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว
มั่นใจ อดีต ส.ส.ที่ทาบทามมา ยังได้รับความนิยม
นายสิระ ระบุว่า จากการลงพื้นที่สำรวจฐานเสียงของอดีต ส.ส.ที่มาร่วมงานกับกลุ่มสามมิตรแต่ละพื้นที่พบว่า ปัจจุบันยังคงได้รับความนิยมจากประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้งนั้นๆ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ประมาทคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่หรือกลุ่มนิวโหวต โดยในสัปดาห์นี้กลุ่มสามมิตรเตรียมลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อเชิญชวนทาบทามอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.สมุทรปราการ มาร่วมงานกับกลุ่มสามมิตร ก่อนจะเจาะพื้นที่ฐานเสียงในกรุงเทพมหานคร และภาคกลาง
นอกจากนี้ยังมองภาพรวมการเมืองในช่วงหลังการเลือกตั้งจากข้อกังวลของบางฝ่ายว่าจะเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนั้น อาจเกิดจากเจตนาของคนที่ปล่อยข่าวลือที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย เรียกร้องทุกฝ่ายยอมรับกติกาตามรัฐธรรมนูญกำหนด และยอมรับรัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยได้บริหารประเทศต่อไป
ทว่านายสิระ ยังไม่ยืนยันชัดเจนว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งในฐานะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ แต่ยอมรับว่าได้ประสานกลุ่มสามมิตร ทั้งนี้ยินดีที่จะเปิดให้ใช้บ้านทรงไทยย่านแจ้งวัฒนะ เป็นศูนย์ประสานงานกลุ่มสามมิตรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
สำหรับการเดินหน้าเลือกตั้งตามโรดแมปนั้น มั่นใจว่าการจัดทำไพรมารี่โหวตไม่ได้เป็นอุปสรรคของการส่ง ส.ส.สมัครรับเลือกตั้งของกลุ่มสามมิตร นั่นเพราะอดีต ส.ส.ที่มาร่วมงานด้วยได้รับความนิยมในพื้นที่อยู่แล้ว ซึ่งหากใครมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติก็จะไม่ให้ลงเลือกตั้ง
ยอมรับ "พล.อ.ประยุทธ์" นั่งนายกฯอีกสมัย หากมาตามกฎหมาย
และยังมองว่าบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะต้องมีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ได้รับการยอมรับจากสมาชิกพรรคและ ส.ส. รวมทั้งสามารถประสานงานต่อจากรัฐบาล คสช.ทั้งเรื่องยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ซึ่งหลายคนวิเคราะห์ว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปอาจเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายสิระ ระบุว่า หากมาถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีเรื่องราวที่เสียหาย หรือทำให้บ้านเมืองเกิดปัญหาใด และเป็นเรื่องที่ดี พล.อ.ประยุทธ์ จะได้มาสานงานต่อที่ได้ทำไว้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย