วันนี้ (12 ก.ค.2561) นายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า กรณีการขอสัญชาติไทยให้กับเยาวชนในทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย จ.เชียงราย ที่บางคนมีสถานะบุคคลไร้สัญชาติ ยืนยันว่าการให้สัญชาติไทยเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ส่วนกรมกิจการเด็กและเยาวชนเป็นหนึ่งในคณะทำงาน
ซึ่งหลักเกณฑ์เบื้องต้นจะต้องเป็นบุคคลที่เกิดและอาศัยในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 10 ปี โดยผู้ขอสัญชาติ จะต้องเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ปกครองในสถานสงเคราะห์ ซึ่งมีข้อกำหนดว่าสถานสงเคราะห์ฯต้องขึ้นทะเบียนกับทางกรมกิจการเด็กและเยาวชน และมีเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี อยู่ในความดูแลไม่ต่ำกว่า 6 คน
จากข้อมูลเบื้องต้นมีเด็ก 3 คน ซึ่งอายุ 13 ปี 14 ปี และ 16 ปี เป็นบุคคลไร้สัญชาติ เนื่องจากพ่อแม่เป็นชาวไทยใหญ่ ขณะนี้ได้มอบหมายให้บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย หาข้อมูลเด็กบางคนที่อยู่ในคริสตจักร เพราะยังไม่ทราบว่าได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานสงเคราะห์กับทางกรมฯหรือไม่
ยืนยันว่ากระบวนการขอสัญชาติของทีมหมูป่า เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีอภิสิทธิพิเศษใดๆ ส่วนกรณีของนายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก ไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นบุคคลไร้สัญชาติ
สำหรับกระบวนการขอสัญชาติไทย หากเด็กมีเลข 13 หลักที่ขึ้นต้นด้วยเลข 0 ถือว่าอยู่ในกระบวนการที่ขึ้นทะเบียนไว้ กรมฯจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป หากไม่มีอะไรที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม มีพยานหลักฐานและเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ ก็สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน
ด้านพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ เบื้องต้นต้องให้เด็กๆได้ออกจากโรงพยาบาลก่อน ว่ามีความต้องการอย่างไร ทั้งนี้ส่วนที่ถามว่าจะเป็นการเลือกปฏิบัติกับเด็ก และเยาวชนที่ขอสัญชาติคนอื่นๆหรือไม่นั้น
ทั้งนี้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎระเบียบ คงไม่ไปเลือกปฏิบัติ เบื้องต้นก็คงดูเหตุผลก่อนว่าทำไมอย่างไร อันนี้ไม่มีปัญหาหรอกขอให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีคุณสมบัติครบตามที่ระเบียบกำหนดไว้ แต่ตอนนี้คงต้องให้กำลังใจก่อน ทั้งตัวผู้ประสบภัยและจิตอาสาที่เข้าไปช่วยเหลือให้มากๆ