วันนี้ (2 ก.ค.2561) เวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงความคืบหน้าการช่วยเหลือเยาวชนและโค้ชที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชสามารถ และกรมชลประทานสามารถปิดทางน้ำที่ห้วยน้ำดั้น 2 สาย ซึ่งเป็นลำน้ำที่ทำให้น้ำไหลมาในถ้ำ ลดปริมาณน้ำไหลเข้าถ้ำได้
ระดับน้ำภาพรวมลดลงต่อเนื่องในอัตรา 1 เซนติเมตรต่อชั่วโม โดยการสูบน้ำที่หน้าถ้ำ ใช้เครื่องสูบน้ำรวม 9 ตัว ระยะ 300 -1,500 เมตร จะติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอีก 6 ตัว โดยเครื่องสูบน้ำแบบพญานาคของภาคเอกชนสามารถช่วยในการสูบน้ำได้ปริมาณมาก นอกจากนี้ผู้ที่จะเข้ามาขอให้ติดต่อกับกองอำนวยการร่วมก่อน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
นอกจากนี้ยังระบุว่าการ การที่ขอความร่วมมือให้ทุกคนเข้าในพื้นที่ ข้อเท็จจริงคือพื้นที่ปฏิบัติงานมีความเสี่ยง และจะนำภาพและคลิปการปฏิบัติหน้าที่ให้สื่อมวลชน สั่งให้เกษตรอำเภอ และท้องถิ่นสำรวจความเสียหายของเกษตรกรที่ระบายน้ำจากถ้ำหลวงลงพื้นที่
การขนย้าย หากเด็กๆ รักษาพลังงานไว้ในระบบของร่างกาย หากเข้า 10 วันร่างกายจะเซฟ โดยน้ำย่อยไม่กัดกระเพาะ และใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อและไขมัน ในการดำรงชีวิตตามทฤษฎีสามารถอยู่ได้ 30 วัน ทุกคนยังหวังอยู่ และหากน้องใช้พลังงานน้อยที่สุด แขนขาน้องอาจไม่มีแรง ก่อนเคลื่อนย้ายจะส่งหน่วยแพทย์เข้าไป โดยไปดูจนกว่าจะสามารถขยับตัวหรือดูแลตัวเองได้ และจะนำตัวออกมาทั้งจากด้านหน้าหรือปล่อง
ผู้ว่าฯ เชียงราย กล่าวว่า ทั้งหมดต้องประเมินชัดเจนว่าเคลื่อนย้ายได้แล้ว ถ้าเคลื่อนย้ายไมได้ ต้องเอาแพทย์ไปดูแล และให้อาหารพลังงานสูง วันนี้ทุกคนปฏิบัติงานต่อเนื่อง หน่วยซีลเสริมเข้าไปอีก 20 นาย เราตั้งใจอย่างมากเชื่อว่าน้องยังอยู่ดี มีสุข หวังว่าจะหาเจอและประสบความสำเร็จ
ขณะที่กำลังพลอาสาสมัครส่วนใหญ่จะเป็นการขนของหน่วยซีลคือส่วนหน้า ในการวางขวดอากาศ และมีหน่วยซีลนอกราชการมาช่วยด้วย ทุกคนมาด้วยใจ วันนี้เป็นวันที่ 10 ทุกคนเครียด เหนื่อย น้องข้างในก็น่าจะก็เครียด นักข่าวก็เครียด ทุกคนเครียด หนักนิดเบาหน่อย ขอให้อภัยให้กัน ทุกคนหวังว่าน้องอยู่ดีมีสุข หวังว่าจะเจอในไม่ช้า และหากมั่นใจ 90 เปอร์เซนต์ก็จะไปแต่ตอนนี้ยังมีความเสี่ยงหากทางปิด ตอนนี้ยังคาดว่าน้องยังอยู่ในจุดที่คาดว่าจะอยู่เหมือนเดิม
สร้างฝาย 2 ตัวกั้นน้ำดั้นเบียงทางไหลเข้าถ้ำหลวง
ด้านนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า หลังจากร่วมกับกรมชลประทาน และกรมทรัพยากรธรณี ออกสำรวจบริเวณดอยผาหมี และสำรวจหาจุดที่น้ำหลากตามธรรมชาติไหลเข้าถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เพื่อช่วยลดระดับน้ำภายในถ้ำให้ลดลงร่วมกับวิธีการอื่นๆ ทั้งการเจาะบาดาล การสูบน้ำออกจากถ้ำเพื่อให้หน่วยซีลปฏิบัติภารกิจช่วยชีวิตทีมหมูป่า
ขณะนี้สามารถเบนน้ำในลำห้วยน้ำดั้นที่ไหลเป็นทางยาวขนานไปตามแนวเขาที่จะมีน้ำผุดเข้าไปในถ้ำหลวงได้สำเร็จแล้ว โดยการทำฝาย 2 ตัวกั้น และต่อท่อให้น้ำเปลี่ยนทิศทางไม่ลงในโพรงถ้ำ โดยฝายตัวแรกต่อ 4 ท่อ ระยะทาง 300 เมตร และมีเป้าหมายจะต่ออีก 300 เมตร ส่วนฝายอีกตัวต่อ 3 ท่อ ทำทางเบี่ยง 300 เมตร
เราทำเพื่อช่วยลดปริมาณน้ำได้ส่วนหนึ่ง และคาดว่าจะมีอีกหลายจุด แต่มั่นใจว่าโพรงนี้จากข้อมูลของกรมชลประทานและกรมทรัพยากรธรณี วันนี้ได้รับควมร่วมมือชาวบ้าน 150 คนเข้ามาช่วยทำฝายต่อท่อ และต้องสำรวจเพิ่มเติม เพื่อช่วยตัดน้ำจากภายในถ้ำให้ได้มากที่สุด
ความหวังเจาะโพรงสำรวจบนดอยผาหมี
ด้าน พล.ต.สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า กองทัพบกส่งกำลังไปสำรวจโพรงบนเขา วันนี้เหลือ 6 โพรง 1 ในนั้นมีความลึก 400 เมตร และยังสามารถลงไปได้อีก ส่วนอีก 1โพรงเจ้าหน้าที่ลงไปได้แล้ว 50 เมตร คาดว่าช่วงค่ำจะรายงานผลของโพรงทั้งหมด ส่วนในถ้ำสูบจากปากถ้ำโถง 2 โถง 3 ใช้เครื่องสูบน้ำทั้งหมด 25 เครื่อง และท่อพญานาคอีก 2 เครื่อง ที่เติมไปวันนี้
ส่วนการเจาะพื้นที่บนเขาวานนี้ (1 ก.ค.) ใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงเครื่องมือและอุปกรณ์ เหลืออีก 1 เที่ยวบิน เพื่อประกอบเครื่องเจาะพื้นที่ หากแล้วเสร็จจะเริ่มเจาะได้ในคืนนี้ ส่วนจุดที่ 2 ไม่เหมาะสมในการใช้อากาศยานลำเลียงเครื่องมือ ก็จะถอดและให้เจ้าหน้าที่ขนเครื่องมือขึ้นไปประกอบด้านบนเขา
พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผบ.มทบ.37 กล่าวว่า การพร่องน้ำเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยบริเวณหน้าถ้ำหลวงได้ขุดเจาะบาดาล 3 จุด สูบน้ำได้ชั่วโมงละ 50,000 ลิตร ส่วนจุดที่ 2 ถ้ำทรายทองขุนน้ำนางนอน จากการสำรวจพบว่ามีน้ำอยู่เต็มถ้ำ ขณะนี้ได้ใช้รถแบคโฮและหัวเจาะทลายถ้ำที่น้ำขังอยู่ ทำให้น้ำออกมาจำนวนมาก
ส่วนนอกถ้ำทางปีกขวามีน้ำผุดได้ขุดให้น้ำออกมาเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันได้ขุดเป็นทางระบายน้ำไปทางบ้านจ้อง ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยชาว จ.นครปฐม นำท่อพญานาค 4 ตัว มาช่วยสูบน้ำชั่วโมงละ 160,000 ลิตร ส่วนคืนนี้ดำเนินการทางด้านปีกซ้ายให้เสร็จ และทลายถ้ำด้านปีกขวาและถ้ำน้ำลัด พร้อมขอบคุณประชาชนในพื้นที่ที่ยอมให้น้ำไหลลงพื้นที่ไร่นา
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอำนาจ แสงกุดเลาะ อาจารย์ประจำสาขาวิชาภูมิสารสนเทศ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ได้รวบรวมข้อมูลและจัดทำแผนที่ปักหมุด “แผนที่แนวถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน” บนแอปพลิเคชันกูเกิลแมพ ระบุใครทำอะไร อยู่ตรงไหน พร้อมอัปเดตสถานการณ์