ภายหลังการหารือร่วมกันระหว่าง กสทช., ผู้บริหารบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส), ทีโอที และดีแทค ได้ข้อสรุปแนวทางแก้ปัญหารถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้อง ว่าทีโอทีจะปิดสัญญาณคลื่นความถี่ย่าน 2300 เมกะเฮิรตซ์ ตามแนวของรถไฟฟ้า 10 สถานี เป็นเวลา 2 วัน ป้องกันการรบกวนระบบวิทยุสื่อสารในระบบอาณัติสัญญาณของรถไฟฟ้าบีทีเอส ในระหว่างที่บีทีเอสปรับเปลี่ยนระบบรับสัญญาณใหม่ จากคลื่น 2400 ช่วงต้น เป็น 2400 ช่วงปลาย ซึ่งจะแล้วเสร็จวันที่ 29 มิ.ย.นี้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ปัจจุบันคลื่นความถี่ของทีโอทีและบีทีเอส ที่ใช้อยู่ในย่าน 2370-2400 เมกกะเฮิร์ต ซึ่งห่างกันประมาณ 30 เมกะเฮิรตซ์ ถือว่ามีระยะห่างมากพอที่จะไม่เกิดการรบกวนของสัญญาณในทางเทคนิค แต่เมื่อเห็นว่ามีปัญหารบกวน กสทช.จึงแนะนำบีทีเอสให้ย้ายช่องความถี่สื่อสารของระบบอาณัติสัญญาณ ทั้งนี้ยืนยันว่า การปิดคลื่นความถี่ย่าน 2300 เมกะเฮิรตซ์ของทีโอที จะไม่กระทบต่อผู้ใช้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือค่ายดีแทค เพราะสามารถเปลี่ยนไปใช้คลื่นความถี่ย่าน 2100 เมกะเฮิรตซ์ได้
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บีทีเอส ยอมรับว่า ในช่วงตลอดสัปดาห์นี้รถไฟฟ้ายังมีโอกาสขัดข้องอยู่บ้าง โดยผู้บริหารบีทีเอสอยู่ระหว่างหาข้อสรุปของการเยียวยาผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบ ส่วนการประชุมคู่สัญญาระหว่างกรุงเทพมหานคร เจ้าของสัมปทาน และผู้เดินรถ หรือบีทีเอส ซึ่งเหลืออายุสัญญา 11 ปี
ขณะที่กรุงเทพมหานครสั่งการให้สำนักการจราจรและขนส่ง พิจารณาว่าจะเรียกค่าปรับจากกรณีปัญหาการเดินรถได้หรือไม่ ตามหลักเกณฑ์ ค่าปรับคิดเป็นร้อยละ 0.6 ของ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าจ้างเดินรถต่อเดือน หรือคิดเป็นเงิน 1,800,000 บาท นอกจากนี้ สั่งการให้บีทีเอสพิจารณาเยียวยาผู้โดยสารเป็นรายกรณี ทั้งผู้ใช้บัตรโดยสารและจ่ายเงินสด รวมทั้งให้บีทีเอสปรับปรุงวิธีการประชาสัมพันธ์ให้รวดเร็วขึ้น