ความคืบหน้ากรณี "ไทยพีบีเอส" เปิดโปงประเด็นร้องเรียนให้ตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนแห่งหนี่งใน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ล่าสุด นายณัฐวุฒิ ทรงประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร กล่าวว่าโครงการนี้มีผู้ร้องเรียนประมาณปลายปี 2560 กล่าวหาผู้บริหารสถานศึกษาในเขตเทศบาลตะพานหิน ทุจริตโครงการอาหารกลางวัน
โดยระดับชั้นอนุบาล-ประถมศึกษาเป็นงบประมาณของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ขณะที่ระดับชั้นมัธยม ใช้งบประมาณประจำปี 2560 ของเทศบาลเมืองตะพานหิน ตั้งไว้ 3,000,000 ล้านบาท
นายณัฐวุฒิ ทรงประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร
โดยขณะนี้การสอบสวนมีความคืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 60 โดยประเด็นการสอบที่เกี่ยวข้องตามที่มีผู้ร้องเรียน 2 คน เช่น วัสดุในการประกอบอาหารระดับประถม และมัธยมไม่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามกฎหมายปลอมเอกสาร ปลอมลายมือชื่อผู้ค้า ทำเอกสารเท็จ เบิกเกินกว่าที่ซื้อจริง ในช่วงระหว่างวันที่ 5-9 มิ.ย. 2560 และ 12-16 มิ.ย.2560
เราได้ลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริงสอบพยานเป็นผู้ค้าประมาณ 8 คน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำนวน 9 คน ได้ขอเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างนี้ประเด็นการปลอมลายมือชื่อผู้ค้า อยู่ระหว่างส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานช่วยตรวจสอบ เรื่องนี้ข้อเท็จจริงขณะนี้เพียงพอที่จะฟังได้ว่ามีมูลตามที่ผู้ร้องร้องเรียน ซึ่งจะสรุปเสนอคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้ไม่เกินเดือนก.ค.2560 เพื่อขอให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง
ผอ.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร ระบุด้วยว่า กรณีนี้พบความผิดปกติเบื้องต้น คือการใช้งบประมาณ ในขณะที่วัตถุดิบไม่ครบในส่วนของเด็กประถม ส่วนวัตถุดิบของเด็กมัธยมไม่มีของ แต่มีการเบิกเงิน แล้วให้เด็กมัธยม มากินร่วมกับวัตถุดิบของเด็กประถม กรณีนี้มีการร้องเรียนผู้บริหารระดับผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการที่เกี่ยวข้อง
เรื่องนี้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นในวงการศึกษา ต้องการให้สถานศึกษาอื่นๆ ช่วยกันดูแลเด็กๆ และตรวจสอบว่าเกิดการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะเมื่อเรื่องมาถึงป.ป.ช. ทางเราก็ต้องขยายผลสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงเต็มที่และถ้าพบการทุจริตก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน
นอกจากนี้ ป.ป.ช.พิจิตร ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบประเด็นบุคคลปลอมแปลงลายเซ็นผู้ค้าที่จัดส่งวัตถุดิบจริงหรือไม่ โดยได้นำลายมือผู้ค้าไปตรวจสอบกับเอกสาร ซึ่งส่วนนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พส.) เข้ามาช่วยตรวจสอบยืนยัน โดยมีพยานบางคนบอกว่า ไม่เคยได้เซนอะไรในขณะจัดส่งวัตถุดิบและรับเงิน
เรื่องนี้น่าจะมีมูลประมาณ 60% คิดว่าน่าจะใช่แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ อยากให้สถานศึกษาเห็นเป็นตัวอย่างว่ามีกรณีแบบนี้เกิดขึ้น ไม่ควรทำ เพราะสำหรับป.ป.ช.แล้ว ถ้ามีเรื่องร้องเรียน ทางเราก็ต้องตรวจสอบละเอียดยิบอยู่แล้ว และต้องลงโทษผู้กระทำผิด
ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส
อ่านข่าวเพิ่มเติม
โกงงบฯ อาหารกลางวันเด็กนักเรียน จ.พิจิตร
ชำแหละ ! 47 วัตถุดิบเมนูล่องหน
ใบเสร็จ..เสร็จใคร? พิรุธส่วนต่างค่าวัตถุดิบ
เปิดใจ "ธัชธรรม ศรีทา” สายลับจับโกงอาหารกลางวัน