สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือพศ.มีหน้าที่ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยได้จัดสรรงบประมาณที่เรียกว่า เงินอุดหนุนให้กับวัดต่าง โดยมีหลักสำคัญ 4 ด้านคือ เพื่อปฏิบัติ 2 เพื่อการศึกษาพระปริญัติธรรม 3 เพื่อการเผยแผ่และบำรุงศาสนา
ทั้งนี้วัดที่จะขอเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด ต้องมีคุณลักษณะคือ เป็นวัดที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดตามกฎหมาย มีชื่อในทะเบียนวัด ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เจ้าอาวาสปกครองวัดให้เป็นไปตามกฎหมาย พระสงฆ์และประชาชนที่ขึ้นกับวัดเอาใจใส่ในการพัฒนาวัด และวัดมีเงินทุนในการบูรณะที่จะขอรับเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด หรือจัดหาวัสดุก่อสร้าง หรือก่อสร้างไปแล้ว 1 ใน 3 ของงานก่อสร้าง และเจ้าอาวาสหรือรักษาการเจ้าอาวาสได้รับการแต่งตั้งถูกต้องตามกฎหมาย
การทุจริตเงินทอนวัดเกิดขึ้นก่อนปี 2558 เนื่องจากกฎหมายมีช่องโหว่ รูปแบบของการทุจริตเงินทอนวัด เจ้าหน้าที่ พศ.จะเข้าไปพุดคุยกับวัด โดยระบุว่าสามารถช่วยให้วัดได้รับเงินงบประมาณซ่อมแซมวัด โดยให้วัดเขียนโครงการเพื่อเสนอของบ และบวกเพิ่มให้เจ้าหน้าที่ พศ.โดยคิดเพิ่มในอัตราส่วน 3 ใน 4 หรือวัดรับไปร้อยละ 25 วัดรับไปร้อยละ 75 จากนั้นจะส่งงบไปให้ พศ.พิจารณา เมื่องบได้รับการอนุมัติ วัดต้องเบิกเงินร้อยละ 75 ให้เจ้าหน้าที่ พศ. หรือที่เรียกว่า "เงินทอน"
ก่อนหน้านี้วัดสามารถทำเรื่องของงบโดยตรงไปยังสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ และทอนเงินเข้าบัญชีวัดโดยตรง โดยไม่ผ่านการตรวจสอบ แต่ต่อมาสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ได้เสนอแนะเพื่อให้ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น โดยวัดต้องส่งคำของบประมาณไปยัง พศ.จังหวัด จากนั้นส่งไปยัง พศ.ส่วนกลางพิจารณา และงบที่ได้รับการอนุมัติจะถูกโอนไปยัง พศ.จังหวัด
ไทยพีบีเอสออนไลน์รวบรวม