วันนี้ ( 21 มี.ค.2561) พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้จะลงพื้นขยายผลตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์ไร้ที่พึ่ง ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง หรือ ศูนย์สงเคราะห์ชาวเขา และศูนย์ประสานงานโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะ สตง.พบความผิดปกติการเบิกจ่ายเงิน ตั้งแต่นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวง พม.ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
เนื่องจากงบประมาณกว่า 370 ล้านบาท จาก 490 ล้านบาท ในปีงบประมาณปี 2560 ถูกจัดสรรไปยังนิคมสร้างตนเอง และศูนย์สงเคราะห์ชาวเขาสูงผิดสังเกต เช่น จังหวัดเชียงใหม่ 66 ล้านบาท มากกว่าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั้ง 76 จังหวัด เกือบ 10 เท่าตัว
รองลงมาจังหวัดเชียงราย 16 ล้านบาท พระเยา 13 ล้านบาท แพร่ 6 ล้านบาท ตาก 5 ล้านบาท กำแพงเพชร 3 ล้านบาท เพชรบูรณ์ 3 ล้านบาท ราชบุรี 2 ล้านบาท กาญจนบุรี 1 ล้านบาท แม่ฮ่องสอน 1 ล้านบาท
แต่ศูนย์สงเคราะห์ชาวเขาบางแห่ง กลับได้รับงบประมาณเพียงหลักแสนบาทเท่านั้น เช่น จังหวัดน่าน ลำปาง พิษณุโลก อุทัยธานี และเพชรบุรี
ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.ยังย้ำว่า ขณะนี้ยังรอคำชี้แจงจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่าทำไมส่วนใหญ่นิคมสร้างตนเองและศูนย์สงเคราะห์ชาวเขา จึงได้รับงบประมาณสูงกว่าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ทั้งที่จำนวนประชากรน้อยกว่ามาก
“การเบิกจ่ายเป็นลักษณะเดียวกัน เราจะไปตรวจสอบจากบุคคลที่มีรายชื่อว่าเขาได้รับเงินจริงหรือเปล่า ลายเซ็นเป็นของเขาไหม ในขณะเดียวกันก็มีข้อสังเกตที่เราได้ข้อมูลจาก สตง.บางส่วนที่เขามีข้อสังเกตว่าการถ่ายเทงบประมาณลงไปที่ศูนย์ ที่จังหวัด หรือนิคม ทำไมมีตัวเลขที่แตกต่างกันมาก ถ้าดูจำนวนประชากร ดูเขตพื้นที่ก็ไม่ได้ ตรงนี้ต้องรอข้อมูลจากทาง พส.ว่าหลักเกณฑ์เขายึดอันไหน” พ.ต.ท.วันนพ
2 สัปดาห์รู้ผลคนบงการทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้อยู่เบื้องหลังทุจริตการข่าว ใน ป.ป.ท.ระบุว่า ขณะนี้ทราบเบื้องต้นเพียงว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริต มีทั้งหญิงและชายจำนวนหลายคน เป็นข้าราชการคนในและคนนอก
ที่ผ่านมาผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองฯเกือบครึ่งประเทศ ทยอยให้ปากคำที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งข้าราชการที่เกษียณอายุบางคนให้การว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำเพราะไม่เช่นนั้นจะกระทบกับการเลื่อนตำแหน่ง แต่ก็ต้องตรวจสอบหลักฐานให้รอบด้าน ซึ่งก็คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ ป.ป.ท.จะรู้ผลว่าใครเกี่ยวข้องกับการทุจริต และย้ำว่าจะไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูแน่นอน