วันนี้ (7 มี.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการ ปปป.เดินทางไปที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อสอบสวนนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก และพยานที่อยู่ในเหตุการณ์กรณีที่มีการแจ้งความในคดีนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก พยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ เบื้องต้น นัดหมายกันที่ทางหลวงไทรโยค จ.กาญจนบุรี เวลา 13.00 น. ส่วนวันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) จะนัดหมายเข้าไปจำลองสถานการณ์ในสถานที่จริง
สำหรับการสอบสวน จะลงในรายละเอียดต่างๆ ว่า ขณะนั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง และดูองค์ประกอบของกฎหมาย ตรวจสอบพยานหลักฐานที่ผู้ร้องได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษว่ามีเหตุผลหรือไม่ สถานการณ์ที่เกิดเหตุเป็นอย่างไร โดยต้องจำลองสถานการณ์ว่าขณะที่มีการติดสินบนเกิดช่วงใด มีการเสนอสินบนระหว่างเขียนบันทึกจับกุมหรือไม่ หากมีน้ำหนักมากพอ จะพิจารณาออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา สำหรับการที่มีผู้ร้องทุกข์ว่ามีการให้สินบน สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีคลิปเสียงแต่อย่างใด
ส่วนภาพรวมการดำเนินคดีนายเปรมชัย กับพวก คดีร่วมกันล่าสัตว์ป่า และข้อหาอื่นๆ ซึ่งตำรวจระบุว่าจะส่งสำนวนคดีให้อัยการภายในวันที่ 26 มีนาคมนี้ โดยนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรอบระยะเวลาการพิจารณาคดีว่า การพิจารณาสั่งคดีของอัยการโดยทั่วไป หากสำนวนการสอบสวนของตำรวจครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประเด็น ก็จะใช้ระยะเวลาพิจารณาไม่เกิน 1 เดือน แต่หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอความเป็นธรรม อัยการต้องหยิบประเด็นที่ขอมา พิจารณาประกอบด้วย หากสำนวนการสอบสวนไม่ครบถ้วนอัยการ ก็จะส่งสำนวนคืนให้ตำรวจไปสอบสวนเพิ่ม หากเกิดความล่าช้า ก็จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้เร่งสอบสวนโดยเร็ว หากปล่อยให้ล่าช้าโดยไม่มีเหตุสมควรก็เข้าข่ายมีความผิดปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
ส่วนกรณีผู้ต้องขังอยู่ระหว่างการฝากขังก็ต้องพิจารณาให้ทันภายในกรอบระยะเวลาฝากขังครั้งสุดท้าย โดยระเบียบการสอบสวนกำหนดว่า ตำรวจต้องส่งสำนวนให้อัยการภายใน 12 วัน ก่อนครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย เพื่อให้พนักงานอัยการมีเวลาพิจารณา