หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุความคืบหน้าคดีนายเปรมชัย กรรณสูต บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คนลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี
โดยมีการสรุปว่าความผิดในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ไม่เข้าข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 นอกจากนี้ลายนิ้วมือพบลายเส้นไม่เพียงพอ ยืนยันไม่ได้ ส่วนดีเอ็นเอ ตรงกับของนายเปรมชัย แค่บางส่วน ทำให้มีการวิจารณ์ถึงการทำคดีที่ล่าช้า หากเทียบการจับกุมกรณีคนล่าและฆ่าหมีควายตาย ที่จ.นครราชสีมา
วันนี้ (26 ก.พ.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีความเคลื่อนไหวในกลุ่มอนุรักษ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์หลายกลุ่ม โดยนายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า ถ้านับตามวันที่ยิงเสือ วันที่ 4 เดือนหน้า (มี.ค.) จะครบเดือน วันที่ 5 วันจันทร์ พวกเราน่าจะต้องสรุปความคืบหน้าคดี ว่าคุณศรีวราห์ ทำงานคืบหน้า ไปอย่างไรแค่ไหน
จากนั้น คงต้องร่วมกันแสดงออก เคลื่อนไหว เพื่อให้รัฐบาล ทราบว่าพวกเราไม่นิ่งเฉย สังคมต้องการความเป็นธรรม จับคนทำผิด คนยากจน ทำไมดำเนินคดีให้คนผิดได้รับโทษรวดเร็ว แต่กับคนมีอิทธิพลจึงคนละเรื่อง เรื่องนี้ ผมว่ากระบวนการพิจารณาคดีที่เรียกว่า ป.วิอาญา นี่คงต้องถูกสังคายนาใหญ่
ภาพ : ชุดพญาเสือ กรมอุทยานฯ
นักอนุรักษ์-นักข่าว ระบุคดี "เปรมชัย"หลักฐานชัด
นอกจากนี้ยังระบุว่าคดีคุณเปรมชัย 1.มีหนังเสือดำถลกไว้เรียบร้อย ทาเกลือ 2.มีต้มหางเสือในหม้อ ที่คุณแคมปิ้ง 3.มีปืน และเสียงปืนจากแคมป์ที่พัก ที่ไม่ได้อนุญาต 4.มีเสียงต่อรอง ในคลิป
ถ้าแค่นี้ไม่จบ ไม่พอ รอตรวจขี้ อะไรไปเรื่อยในความรู้สึกผม ผมว่าไงๆก็มีฝ่ายทำคดีหาทางช่วยเปรมชัย แน่ๆขนาดนี้1.ไม่ควรให้ประกัน2.คนแบบนี้ เป็นภัยต่อสังคม ทรัพยากรธรรมชาติ เห็นๆ 3.หลักฐานขนาดนี้ ถ้าหลุด รัฐบาลนี้ ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้นะ”
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit ของนพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ คุณหมอนักอนุรักษ์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รุะบุว่าหากสังคมเราปล่อยให้ผู้ต้องหาคดีนี้ลอยนวลได้จะส่งผลกระทบ ฉุดยั้ง ให้สังคมไทยเราถดถอย ไม่มีโอกาสเป็นอารยประเทศ กับชาวโลกได้เลยจะสร้างจิตวิทยา สิ้นหวัง ให้คนในชาติ ที่เคยอยากเห็นสิ่งดีๆเกิดขึ้นบนแผ่นดินนี้ ล้มเลิกความพยายาม และหันมาเอาตัวรอดไปวันๆ
ตอกย้ำให้เด็กรุ่นใหม่เชื่อว่า ความดี ความถูกต้อง การเคารพกฏกติการ่วมกัน ไม่มีความหมาย ไม่มีคุณค่าใดๆเพื่อความอยู่รอดในสังคมไทย เราทุกคนต้องแสวงหาความร่ำรวย และ connection เท่านั้น
ขณะที่นายจตุรงค์ สุขเอียด ผู้สื่อข่าวชื่อดังรายการข่าว 3 มิติ ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเมื่อวานนี้(25 ก.พ.) พร้อมกับระบุว่าคดีนายเปรมชัย ล่าเสือดำ ไม่จำเป็นต้องหาหลักฐานใหม่ออกไปในแนวกว้าง หาคลุมแผ่ไปทั้งในบ้าน นอกบ้านเอาให้น้อยแต่ให้ลึกลงไปที่เขาเจตนานำอาวุธ เข้าไปล่าเสือดำและสัตว์ป่าหรือไม่ จากหลักฐานในป่านั้นก็น่าจะพอทั้งพยานบุคคลที่เห็นเข้าไป พยานที่จับกุม ซากเสือดำที่พบถูกยิงตาย ไม่ใช่ตายเองตามธรรมชาติ เอาให้ชัดแค่นายเปรมชัย ร่วมล่าหรือล่าเสือในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า ประเด็นอื่นค่อยว่ากันไป ติดคุกค่อยไปขยายประเด็นอื่นก็ได้ลุงตำรวจ อย่าเยอะจนย้วย
ภาพ : ชุดพญาเสือ กรมอุทยานฯ
มอบหลักฐานจำลองวิถีกระสุนยิงเสือดำ
ด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช พร้อมด้วยนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญานเรศวร ฝั่งตะวันตก พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ได้จัดทำบันทึกตรวจสอบ เรื่องพบแนววิถีกระสุนในการล่าเสือดำ บริเวณจุดชำแหละ พร้อมทั้งมีรายละเอียด ภาพถ่าย พิกัด องศา ระยะห่างขอองแต่ละจุด และภาพมุมต่างๆ จนครบ เพื่อให้พนักงานสอบสวนได้พิจารณา ตามเหตุผล และข้อเท็จจริงเพื่อเข้ากระบวนการ พิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเป็นธรรม และทาง กรมอุทยานฯ ได้มอบให้นายชัยวัฒน์ มาเป็นพยานเรื่องการพิสูจน์และการเก็บหลักฐาน พร้อมทั้ง เป็นผู้ให้คำปรึกษา กับนายวิเชียร ในเรื่องคดีนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการสืบสวน สอบสวนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเฟซบุ๊กและกระแสสื่อสังคมออนไลน์ มีปรากฎการณ์ชวนการติดแฮชแท๊ก #เสือดำต้องไม่ตายฟรี อย่างแพร่หลายในขณะนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
คดีเปรมชัยล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่คืบหน้าร้อยละ 70
แจ้งข้อหาเพิ่ม “เปรมชัย” มีปืนเถื่อน ออกหมายเรียกรอบ 2 วันที่ 5 มี.ค.