วันนี้ (19 ก.พ.2561) นายทองสุข ณ พล นักสืบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ป.ป.ท. เขต 4 และในฐานะเลขาอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กล่าวว่า กรณีการทุจริตที่ศูนย์ขอนแก่น ข้อมูลที่ได้มายังไม่เพียงพอ คณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงฯ จึงได้กำหนดกรอบการทำงานซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะต้องเข้าสู่กระบวนการหลายขั้นตอน โดยคาดว่าคณะอนุกรรมการฯ จะลงพื้นที่ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ เพื่อสอบปากคำชาวบ้านให้เรียบร้อยตามขั้นตอน จากนั้นจะมาสรุปหลักฐานเอกสารและพยานบุคคลที่ได้สอบปากคำไปว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกร้องเรียนด้วย
สำหรับการลงพื้นที่สอบสวนชาวบ้านนั้นจะดำเนินการให้เร็วที่สุดแต่ต้องละเอียดรอบคอบ ชัดเจน โปร่งใส จากนั้นจะสรุปผลการไต่สวนและเรียก ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น และพวกรวม 6 คน มารับทราบข้อหา เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ฯ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปลอมแปลงเอกสาร และรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ ซึ่งเมื่อทั้ง 6 คน รับหนังสือที่คณะอนุกรรมการฯแจ้งไปแล้วรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถทำหนังสือแย้งกลับมาตามสิทธิที่พึงกระทำได้เช่นกัน
ขณะที่ ป.ป.ท.เขต 5 เดินหน้าหาข้อมูลเพิ่มเติมพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง พบว่า ชาวบ้านแทบทุกคนไม่เคยได้รับเงิน บางคนไม่รู้ว่าเอกสารตัวเองไปอยู่ในบัญชีรายชื่อของศูนย์ฯได้อย่างไร บางคนเป็นพนักงานราชการแต่มีชื่อรับเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ในสำนวนการสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ล่าสุด ว่า ป.ป.ท.พบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดบึงกาฬอาจเข้าข่ายทุจริตเพิ่มแห่งที่ 3 เพราะมีพฤติการณ์ไม่จ่ายเงินตามที่อนุมัติ ซึ่งกรณีดังกล่าวหากตรวจสอบแล้ว พบว่ามีมูลจริงจะสั่งการย้ายผู้บริหารศูนย์ฯทันที ส่วนที่มีการมองว่าเรื่องเป็นเกิดขึ้นเพราะระเบียบการจ่ายเงินสงเคราะห์มีช่องโหว่นั้น คงไม่ใช่เรื่องของระเบียบอย่างเดียว เพราะมีหลายศูนย์ที่ดำเนินการถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก็ได้ทำหนังสือแจ้งแนวปฏิบัติที่รัดกุมอยู่ หลังเกิดปัญหาก็จะมีการเพิ่มมาตรการทั้งภาพถ่ายการส่งมอบเงิน ให้เห็นทั้งใบหน้าผู้รับมอบและผู้มอบเป็นหลักฐานในการเบิกจ่ายเงิน รวมทั้งจะมีการสุ่มตรวจโดยหัวหน้าหน่วยหลังรับมอบ 15 วัน และในส่วนของผู้บริหารส่วนกลางที่ได้รับมอบหลังมอบเงิน 1 เดือน
ส่วนประเด็นจัดสรรเงินจากส่วนกลางสู่ภูมิภาคในสัปดาห์หน้าจะแต่งตั้งคณะกรรมการจัดสรรเงิน ซึ่งมีรองอธิบดีพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่กลั่นกรองการขอเงินที่ศูนย์แต่ละแห่งต่อไป รวมทั้งกระบวนการมอบเงิน จะให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯไปจ่ายเองจะไม่มอบกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไปมอบแทน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป.ป.ท.ขอผู้ว่าฯ ขอนแก่นประสานข้อมูลทุจริตเงินสงเคราะห์
พบมูลทุจริต ปลอมเอกสารเบิกเงินคนไร้ที่พึ่งฯ ขอนแก่น
เจาะไทม์ไลน์การต่อสู้ เปิดโปงทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้