วันนี้ (15 ก.พ.2561) นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รองผู้บังคับการกองการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) นำทีม ดร.กณิตา อุ่ยถาวร หัวหน้าทีมนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าเก็บตัวอย่างงาช้าง 2 คู่ ที่ยึดมาจากบ้านของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เพื่อตรวจดีเอ็นเอ ว่าจะเป็นงาช้างเอเชีย หรือ งาช้างแอฟริกา ตามที่อ้างว่ามีเอกสารแจ้งครอบครองไว้หรือไม่
นายปิ่นสักก์ ระบุว่า การตรวจสอบครั้งนี้ได้รับการประสานงานจาก ปทส. เพื่อตรวจสอบเรื่องการลงทะเบียนครอบครองและตรวจสอบดีเอ็นเอว่าเป็นงาช้างเอเชีย หรือ งาช้างแอฟริกา คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบ 3 สัปดาห์
เบื้องต้นยืนยันว่ามีการขอขึ้นทะเบียนครอบครองงาช้างกับกรมอุทยานฯ แล้ว แต่ยังต้องตรวจสอบดีเอ็นเอของงาช้างทั้ง 2 คู่เพิ่มเติม
สำหรับงาช้างเอเชียกับงาช้างแอฟริกามีความแตกต่างกันที่ขนาดของงาโดยงาช้างแอฟริกาจะมีขนาดใหญ่กว่า ขณะนี้ยังคงต้องรอผลการตรวจสอบเพื่อเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่าเป็นงาช้างแอฟริกาก็จะมีความผิดเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดร.กณิตา กล่าวว่า งาช้างทั้งหมดตกแต่งด้วยการทาแล็กเกอร์ ทำให้มีความเงางามและสวยงาม ภาพรวมมีความสมบูรณ์มากและขนาดใหญ่พอสมควร แต่ไม่สามารถระบุอายุของงาช้างได้ รวมทั้งไม่สามารถระบุว่าเป็นงาช้างเอเชีย หรือแอฟริกา ต้องรอผลการตรวจสอบดีเอ็นเอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางกรมอุทยานฯ และ ปทส. ยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลเข้าร่วมสังเกตการณ์ขั้นตอนการเก็บตัวอย่างงาช้างของทีมนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ
ทั้งนี้ ขั้นตอนในการตรวจสอบงาช้าง จะเปิดทีละกิ่ง เริ่มจากการชั่งน้ำหนัก โดยงาช้างดังกล่าวได้รับการตกแต่งมาแล้ว ชิ้นที่ 1 น้ำหนัก 13.895 กก. โค้งด้านนอกยาว 146 ซม. โค้งด้านในยาว 129 ซม. โคนงา 36 ซม. กลางงา 32.5 ซม. ปลายงา 11 ซม. ราคาประมาณ 560,000 บาท ขณะที่งาช้างที่เหลือเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบต่อไป