วันนี้ (12 ก.พ.2561) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) มีบ้านพักใน อ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งพื้นที่เป็นภูเขาใกล้กับรีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยอยู่ไม่ห่างจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ว่า ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบกรณี นายเปรมชัย กรรณสูต อย่างเข้มข้นเป็นพิเศษ หากตรวจสอบพื้นที่แล้วพบการบุกรุกปลูกสร้างบ้านพักในพื้นที่พื้นที่ป่าอนุรักษ์หรือป่าสงวนแห่งชาติจริงต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายทันที
นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า มอบหมายให้ขอเอกสารสิทธิการครอบครองมาว่าได้มาโดยมิชอบหรือไม่ ซึ่งกรมป่าไม้ร่วมกับ ปสท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานกำลังเข้าตรวจสอบด้วยเช่นกัน หากพบว่าพื้นที่อยู่ในเขตป่า ไม่ว่าจะเป็นป่าอนุรักษ์หรือป่าสงวนแห่งชาติก็จะต้องดำเนินคดีทางกฎหมาย พร้อมทั้งขยายผลว่า นายเปรมชัยยังมีบ้านพักที่อยู่ในพื้นที่อื่นหรือไม่ ทั้งนี้ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ ทางกรมป่าไม้ พร้อมชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร จะเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่และติดตามการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้
ที่ดินยังไม่ชัด "รังเย็นรีสอร์ต"นอกแนวเพิกถอนหรือไม่
ขณะที่วันนี้ หน่วยงานในพื้นที่ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ที่ดินและป่าไม้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบที่ตั้งของรังเย็นรีสอร์ต บนเนื้อที่ 19 ไร่ ถือครองโดยบริษัทซี พี เค แพลนเตชั่นอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในเครือตระกูลกรรณสูต เช่นเดียวกับไร่องุ่น และโรงงานผลิตไวน์ที่อยู่ติดกัน ในอำเภอภูเรือ จ.เลย
เบื้องต้นพบว่าบริษัทดังกล่าวเคยถือครองพื้นที่แถบนี้ 147 แปลง หรือกว่า 6 พันไร่ ก่อนถูกเพิกถอนสิทธิ์เมื่อปี 2546 เนื่องจากออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบบนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ นอกจากนี้ยังมีอีก 16 แปลงหรือหลายร้อยไร่ที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบจากกรมพัฒนาที่ดินว่าอยู่ในพื้นที่ภูเขา หรือไม่
นายพิมล พูลสง่า เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลยเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลย กล่าวว่า ส่วนที่เป็นที่ตั้งรีสอร์ตและโรงงานผลิตไวน์ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าอยู่ในส่วนของพื้นที่ที่ถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ์การออกโฉนดโดยมิชอบหรือไม่ เนื่องจากต้องรอตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้โดยละเอียดอีกครั้ง
"ศรีวราห์" ลั่น "เปรมชัย" ไม่หลุดคดี
พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจ ปทส.กล่าวว่า พนักงานสอบสวน ปทส. ออกหมายเรียกนายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานฯ ผู้ทำหน้าที่ประสานขออนุญาตให้นายเปรมชัยเข้าไปในป่า มาให้ปากคำวันที่ 15 ก.พ.นี้ ซึ่งนายนพดลตอบรับแต่ไม่ระบุเวลาที่ชัดเจน เชื่อว่าจะเข้าให้ปากคำตามที่นัดหมาย
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ไม่มีความกังวลว่านายเปรมชัยจะหลุดคดี เพราะตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ เพียง แค่นำอาวุธปืนเข้าไปในอุทยานฯ ก็ถือว่ามีความผิด แม้ว่าจะไม่ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงก็ตาม
ส่วนข้อมูลของนายเปรมชัย ขณะนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังไม่มีข้อมูลว่านายเปรมชัยหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านตามที่เป็นกระแสข่าว ส่วนหลบหนีทางช่องทางธรรมชาติหรือไม่นั้น หากพบมีหลักฐานก็สามารถขอศาลพิจารณาเพิกถอนคำสั่งประกันตัวได้ เนื่องจากนายเปรมชัยได้ประกันตัวในชั้นศาล ตำรวจก็ไม่มีอำนาจก้าวล่วง และเมื่อครบกำหนดฝากขัง 12 วัน นับจากวันที่ศาลให้ประกันตัว นายเปรมชัยก็จะต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาล หากไม่เดินทางมาศาลก็จะยึดเงินประกันตามขั้นตอน
ด้าน พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ปฎิเสธยังไม่รู้การหลบหนีออกนอกประเทศของนายเปรมชัย ยังไม่มีการข่าวที่แน่ชัด ขณะเดียวกันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) กองพิสูจน์หลักฐานกลางจะลงตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อจำลองสถานการณ์ล่าสัตว์และการอาศัยระหว่างอยู่ในป่าของนายเปรมชัย และพวก
หาจุดอ่อนช่องโหว่รัฐถูกโจมตี
ด้าน พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของการติดตามคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ คณะทำงานติดตามคดีของ ทส. ได้ติดตามต่อเนื่อง แต่ขณะนี้ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมายก่อน ส่วนบุคคลใดที่เกี่ยวข้องจะทยอยเข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม รวมถึงรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อใช้ในชั้นพนักงานสอบสวนหรือชั้นศาลด้วย
ยืนยันว่ากรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กำลังเร่งตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อหาจุดอ่อนที่อาจเป็นช่องโหว่ จนเจ้าหน้าที่รัฐถูกโจมตี โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เชื่อว่าไม่ใช่การเบี่ยงเบนประเด็นมาโจมตีเจ้าหน้าที่อุทยานแทนเรื่องการลักลอบล่าสัตว์ป่าแน่นอน ซึ่งพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกยังเปิดให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวตามปกติ แต่เพิ่มความเข้มงวดขึ้น