วันนี้ (6 ก.พ.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มภารกิจเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ จ.จันทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าสักการะพระบรมราชาชินยานุสาวรีย์ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี สถานที่จัดการประชุม เพื่อความเป็นสิริมงคล
หลังเข้าสักการะ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายภาพหมู่กับนักศึกษา และร่วมเซลฟีอย่างเป็นกันเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับชู 3 นิ้ว เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก และระหว่างการทักทายกับผู้บริหาร บุคลากร และนักศึกษา โดยนายกรัฐมนตรีขอให้นักศึกษาเป็นกำลังสำคัญของประเทศ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน และไม่ขัดแย้ง โดยขอให้ใช้การพูดคุยหารือ หากเกิดความเห็นต่าง ก่อนจะเยี่ยมชมผลงานของนักศึกษา และเข้าประชุม ครม.
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังคงไม่ให้ความเห็นใดๆ กับสื่อมวลชน โดยเฉพาะกระแสการปรับ ครม. เพื่อปรับเปลี่ยน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกจากตำแหน่ง หลังกล่าวกับประชาชน ระหว่างปฏิบัติภารกิจ เมื่อวานนี้ (5 ก.พ.) ว่าจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ ในขณะนี้ พร้อมๆ กับคำขอโทษประชาชน หากการบริหารงานของรัฐบาลเกิดข้อขัดข้อง โดยเป็นที่คาดการณ์ว่านายกรัฐมนตรี จะได้ชี้แจง และตอบข้อซักถามสื่อมวลชนในประเด็นนี้ ตลอดจนความเคลื่อนไหวในประเด็นอื่นๆ ระหว่างการแถลงข่าวหลังการประชุม ครม.บ่ายวันนี้
และเนื่องจากเป็นการประชุม ครม.นอกสถานที่ ภาคตะวันออก วาระการประชุม ครม.วันนี้ จึงเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ทั้งวาระพิจารณาพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะตอ เป็นแหล่งกักเก็บน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตร จ.ตราด
ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม จะเสนอพิจารณากรอบแนวทางการจัดตั้งระเบียงผลไม้ภาคตะวันออกที่ จ.ระยอง เพื่อเป็นตลาดกลางทำการค้าผลไม้ของภาคตะวันออกทั้งหมด งบประมาณกว่า 1,500 ล้านบาท รวมทั้งพิจารณายุทธศาสตร์มหานครอัญมณีโลก ที่ต้องผลักดันให้ จ.จันทบุรี เป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณี ขณะที่กระทรวงพานิชย์จะเสนอแผนยุทธศาสตร์การค้าผลไม้ และเสนอขอความเห็นชอบในหลักการ แผนงาน และเป้าหมายระดับชาติ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นมหานครผลไม้ของโลก
นอกจากนี้ ครม.จะได้ร่วมกันพิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายสำคัญหลายฉบับ ทั้ง ร่างพ.ร.บ.องค์กรการเงินชุมชน และร่าง พ.ร.บ.วิสาหกิจชุมชน ตามที่ประชาชนในพื้นที่ จ.ตราด เสนอเข้ามา เพื่อให้มีกฎหมายรองรับในในเรื่องแหล่งเงินทุนของชุมชนและสหกรณ์ โดยจะมีธนาคารช่วยดูแล