วันนี้ (10 พ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระยะทางวิ่งกว่า 381 กิโลเมตร จาก อ.เบตง จ.ยะลา มาจนถึง จ.นครศรีธรรมราช ของนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ในโครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ภาพของการตอบรับของผู้คน 2 ข้างทาง ที่ร่วมมอบเงินบริจาคคนละ 10 บาท 20 บาท หรือแล้วแต่กำลังศรัทธา นำมาซึ่งยอดเงินบริจาคในช่วง 9 วันแรกของการวิ่ง สูงถึง 153 ล้านบาท โดยเฉพาะใน จ.สงขลา ซึ่งยอดการบริจาคเกือบ 70 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าความตั้งใจของตูน บอดี้สแลม ที่ต้องการระดมเงินบริจาคให้ได้ 700ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ แก่โรงพยาบาล 11 แห่ง ได้รับการยอมรับจากคนในสังคมอย่างมาก
แต่เสียงตอบรับจากคนในสังคม จนกลายเป็นกระแส "ตูน ฟีเวอร์" เหล่านี้ สำหรับตูนแล้วกลับมองว่ ตัวเขาไม่ใช่ฮีโร่ แต่ฮีโร่ตัวจริงคือแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนในโรงพยาบาล ซึ่งวิ่งมาตลอดทั้งชีวิต และตัวเขาเป็นเพียงสะพานที่เชื่อมต่อการสื่อสารกับคนในสังคมให้ได้เห็นความสำคัญ กับผู้ที่เหน็ดเหนื่อยในการรักษาผู้ป่วยเหล่านั้น พร้อมขอโทษที่ไม่ได้รับเงินด้วยตัวเองจากมือของทุกคน
สภาพอากาศที่ร้อนจัด สลับกับฝนที่ตกหนัก เป็นช่วงๆ ทำให้ตลอดระยะการวิ่งของตูนในช่วง 9 วันที่ผ่านมา จึงเริ่มเห็นภาพของความเหนื่อยล้าของตูนอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าเริ่มเกรียม เพราะแดดที่เผาไหม้ สีหน้าเริ่มอิดโรยเพราะการใช้กำลังอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ไม่เคยจางหายไป คือรอยยิ้มที่ยังคงมีให้ผู้คนรอบข้าง อย่างเช่น ที่โรงเรียนบ้านปากระวะ ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตูน บอดี้สแลม ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่โรงเรียน และนักเรียน เมื่อคืนที่ผ่านมา ทุกคนต่างประทับใจในความเป็นกันเองของตูน
เพราะเส้นทางการวิ่งของตูนจาก อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ไปสู่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังเหลือระยะทางอีก 1,810 กิโลเมตร ทำให้วันนี้ คณะแพทย์ดูแลสุขภาพของตูนกำหนดให้แวะพักการวิ่ง 1 วัน เพื่อดูแลสุขภาพ หลังจากก่อนหน้านี้ตูนต้องวิ่งต่อเนื่อง 9 วัน ทั้งที่กำหนดระยะเวลาวิ่ง 4 วันพัก 1 วัน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ตูนและคณะทำระยะเส้นทางวิ่งได้น้อยกว่าที่กำหนด เนื่องจากประชาชน 2 ข้างทางที่มาคอยให้กำลังใจจำนวนมาก จึงต้องเร่งวิ่งให้ครบตามกำหนดเดิมให้มากที่สุด วันนี้ จึงเป็นวันแรกที่ตูนได้พักอย่างเต็มที่ ก่อนเริ่มก้าวเท้าใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้