วันนี้ (22 ก.พ.2560 ) เวลา 09.00 น. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พระเทพรัตนสุธี ตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนา และ พระมหานพพร ปุญญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายบริหารของวัด เจราจาร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย โดยใช้ห้องกระจกสำหรับใช้ติดต่อสอบถาม ตั้งอยู่ภายในประตู 7 เป็นสถานที่เจรจา เพื่อขอเข้าดำเนินการค้นภายในวัดพระธรรมกายในพื้นที่โซนเอและบี
พ.ต.ต.สุริยา เปิดเผยว่า จะขอเข้าเจรจาตรวจค้นพื้นที่เพิ่มเติมอีกครั้ง หลังจากยังพบจุดต้องสงสัยว่าพระธัมมชโยยังหลบซ้อนอยู่ และยืนยันว่ายังคงต้องประกาศให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ตามคำสัง คสช. ไม่สามารถยกเลิกได้เพราะเจ้าหน้าที่จะทำงานไม่สะดวก
“ขนาด มาตรา 44 เราใช้มาตรการละมุนละม่อนแล้ว ยังดำเนินการคืบหน้าเป็นระยะๆ เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นเรายังต้องอาศัย มาตรา 44 เพราะมีความจำเป็น เราเห็นสภาพข้อเท็จจริงตรงนี้ เราพบอยู่แล้วว่าเจ้าหน้าที่เรามีความลำบากในการเข้าควบคุมพื้นที่ ณ ขณะนี้ยังมีความจำเป็นมากๆ ที่เราจะต้องใช้ มาตรา 44 ถ้าเหตุเงื่อนไขทุกอย่างให้ความร่วมมือพร้อม พระไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ มวลชนกลับบ้านให้เรียบร้อย ทุกอย่งก็จะเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว” พ.ต.ต.สุริยา กล่าว
ด้าน พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวโส ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ยังคงเรียกร้องให้ทางการพิจารณายกเลิกประกาศให้พื้นที่วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม เนื่องจากดีเอสไอเข้าตรวจพื้นที่หลายครั้ง และบอกว่าตรวจค้นหมดแล้ว ส่วนที่จะให้ลูกศิษย์ออกจากวัดทั้งหมดยังดำเนินการไม่ได้
“ พวกเขาเห็นว่า เจ้าหน้าที่ประกาศเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ว่าให้พระและเณร รวมทั้งผู้ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกไปนอกวัด ญาติโยมที่บริจาคทั้งหมด ก็รู้สึกว่าเขาเป็นผู้สร้างวัด แม้จะไม่มีทะเบียนอยู่ในวัด แต่เขารู้สึกว่าเขาสร้างวัด เขามาบริจาค เขาเป็นเจ้าของวัด เพราะฉะนั้นเขาจึงมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเลย เขาบอกว่าคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ ที่น่าจะออกจากพื้นที่ตามประกาศดังกล่าว” พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวโส กล่าว
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่าการปฏิบัติการตรวจค้นในวันนี้ ดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประชุมร่วมกันที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 เพื่อกำหนดแนวปฏิบัติและมาตรการต่างๆ ในการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ในโซนเอ ซึ่งเป็นพื้นที่วัดบางส่วน ที่คาดว่าพระธัมมชโยจะอยู่ รวมกว่า 196 ไร่ และโซนบี เป็นพื้นที่ของมูลนิธิต่างๆ ของวัดพระธรรมกาย เช่น อาคาร 100 ปี อาคารอุบาสก อาคารสงฆ์ และมูลนิธิธรรมกาย รวมกว่า 130 ไร่
เบื้องต้นในการเจรจาทางสงฆ์ พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีและตัวแทนเจ้าหน้าที่จะพูดคุยกับทางวัดพระธรรมกาย เพื่อขอเข้าตรวจค้นตามแผน แต่หากไม่สามารถดำเนินการได้ ก็อาจจำเป็นต้องยกระดับการปฏิบัติการให้เข้มข้นขึ้น โดยอาจมีการใช้กำลังเพื่อกดดันตรวจค้นในประตูที่เป็นเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ จาก 4,200 เป็น 4,600 นาย
สำหรับการเข้าออกพื้นที่วัดพระรรมกายจะพิจารณาเป็นกรณี เพื่อป้องกันบุคคลแฝงที่อาจเข้ามาในวัด เนื่องจากก่อนหน้านี้พบมีการแฝงตัวเข้ามาทุกรูปแบบ ส่วนพระสงฆ์ที่กิจธุระ ผู้ป่วยที่ต้องการออกจากวัด ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสที่ประตู 7 ได้ตลอดเวลา