จากปัญหาผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งผลให้สถานที่กำจัดขยะมูลฝอย ในพื้นที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่มีขยะสะสมมากกว่า 1 ล้านตัน และมีน้ำเสียจากกองขยะไหลลงสู่คลองสาธารณะ จนเกิดผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้าน
วันนี้ (6ก.พ.2560) นายสุวรรณ นันทศรุต รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ หรือคพ. กล่าวว่า ทางกรมควบคุมมลพิษ ได้ให้เจ้าหน้าที่ สำนักสิ่งแวดล้อมภาคที่ 14 ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำรอบกองขยะ และคลองสาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่าผลการตรวจคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม โดยพบแบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์ม ซึ่งมาจากอุจจาระและสิ่งปฏิกูลจากบ้านเรือน และพบค่าความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ หรือ บีโอดี สูงเกินค่ามาตรฐาน แต่ยังตรวจไม่พบสารโลหะหนักที่เกินค่ามาตรฐาน
รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ บอกว่า ผลตรวจคุณภาพน้ำในคลองสาธารณะรอบกองขยะ ส่วนที่เป็นปัญหามากที่สุด คือเชื้อแบคทีเรียที่มาจากขยะอินทรีย์ ทำให้นอกจากส่งกลิ่นเหม็น ยังมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนที่สัมผัสน้ำโดยตรง
ขณะนี้ทาง คพ.จึงได้ส่งข้อมูลผลตรวจสอบคุณภาพน้ำไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อให้หน่วยงานที่มีภาระหน้าที่ระดับพื้นที่ เร่งดำเนินการสร้างคันดินปิดกั้นบ่อขยะ ไม่ให้น้ำสียไหลลงสู่คลองสาธารณะ และกำชับให้ท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชน งดใช้น้ำในคลองสาธารณะไปก่อนจนกว่าจะมีคุณภาพน้ำที่ดีกว่าปัจจุบัน
รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวต่อว่า ทาง คพ.ยังไม่ได้รับรายงานผลการตรวจคุณภาพน้ำ ของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำในคลองสาธารณะรอบบ่อขยะ ซึ่งต้องนำมาประเมินร่วมด้วย เพื่อส่งผลการตรวจสอบคุ๊ณภาพน้ำ ไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาขยะมูลฝอยในระดับจังหวัดไปแล้ว ให้มีการสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยว ข้องดำเนินการต่อไป
