วันนี้ (3 ก.พ.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจเบิกความในฐานะพยานฝ่ายจำเลย นัดที่ 10 ในคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว เป็นเหตุในรัฐเสียหาย
ก่อนการซักถามของอัยการโจทก์นายกิตติรัตน์ได้เบิกความ ราว 1 ชั่วโมงด้วยข้อมูลผ่านพาวเพอร์พอยซ์ ยืนยันรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวตามกรอบวินัยการเงินการคลังและข้อกฎหมาย สำหรับกรอบวงเงินหมุนเวียนนั้นไม่ได้นำเงินระบายข้าวไปจ่ายผู้จำนำรายใหม่ แต่เป็นการนำเงินระบายข้าวส่งคืนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
พร้อมนำเสนอข้อมูลเป็นกราฟเปรียบเทียบการบริหารการเงินการคลังว่า รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มียอดขาดดุลงบประมาณลดลง แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มียอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น
นายกิตติรัตน์ ยืนยันว่า โครงการรับจำนำข้าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาวะการเงินการคลังของประเทศ บริหารเพดานหนี้สาธารณะตามกรอบความยั่งยืนทางการคลัง และโครงการได้เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจทำให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้มากขึ้น และได้นำข้อทักท้วงจากสตง.และรายงานตัวเลขทางบัญชีของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีมาพิจารณา ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรอง พร้อมวางมาตรการป้องกัน ติดตาม และตรวจสอบการทุจริต แต่ไม่สามารถยุติโครงการได้ เพราะจะไม่ได้รับประโยชน์