วานนี้ (27 ม.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สวนยางในพื้นที่ ต.ท่าเสม็ด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมสูงนานกว่า 2 เดือนทำให้สวนยางที่ปลูกใหม่เน่าตายเป็นจำนวนมาก ขณะที่ต้นยางที่อายุมากก็มีเชื้อราเข้าทำลายรากและลำต้นทำให้ชาวสวนยางไม่สามารถกรีดยางได้ ทำให้ขาดรายได้
จ.นครศรีธรรมราช มีพื้นที่ ปลูกยางกว่า 1,300,000 ไร่ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกว่า 500,000 ไร่ โดยเฉพาะ อ.ชะอวด ที่น้ำท่วมทั้ง อำเภอรวม 11 ตำบล และพื้นที่ปลูกยางพารา 100,000 ไร่ ชาาวสวนยางเดือดร้อนกว่า 10,000 ครอบครัว
จากภาวะน้ำท่วมทำให้ยางพาราราคาเพิ่มสูงขึ้นกว่า 80 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้ชาวาสวนยางเปิดหน้ายางเพื่อกรีดเอาน้ำยางพารา แต่เจ้าหน้าที่การยางแห่งประเทศไทยเตือนว่า ไม่ควรเปิดหน้ายางในช่วงนี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงทำให้หน้ายางเสียหาย เนื่องจากดินสูญเสียธาตุอาหาร ความเข้มข้นของออกซิเจนในดินต่ำ กลไกการทำงานของรากยังไม่ปกติ หากเร่งเปิดหน้ายางเพื่อกรีดยางเร็วเกินไปจะสร้างความเสียหายมากขึ้น
ขณะที่การฟื้นฟูจากภาวะน้ำท่วมขังเจ้าหน้าที่แนะนำว่า เกษตรกรควรเร่งระบายน้ำออกจากสวนโดยเร็ว โดยใช้แรงงานคนหรือเครื่องจักรขนาดเล็กเท่านั้น เพื่อป้องกันผลกระทบจากรากฝอยที่เจริญขึ้นมาใหม่และไม่ควรใส่ปุ๋ยใดๆ ทั้งสิ้น ในขณะที่ดินยังไม่แห้งเพราะภาวะความชื้นสูงจะทำให้ปุ๋ยเป็นพิษต่อยางพารา โดยควรใส่ปุ๋ยบำรุงต้นทันทีในช่วงฤดูฝนปีถัดไปซึ่งจะส่งผลดีต่อยางพารามากกว่า