ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมสูงหลายตำบล กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึง 25 ม.ค.นี้

ภัยพิบัติ
22 ม.ค. 60
20:43
2,066
Logo Thai PBS
อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมสูงหลายตำบล กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึง 25 ม.ค.นี้
อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ยังคงมีน้ำท่วมสูงหลายตำบล บางจุดระดับน้ำสูงเกือบ 3 เมตร หลายหน่วยงานเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนภาคใต้ฝนหนักอีกระลอก สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก จนถึง 25 ม.ค.นี้

วันนี้ (22 ม.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี หลายพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมสูง บางจุดสูงถึง 3 เมตร โดยเฉพาะพื้นที่ หมู่ 3 หมู่ 6 และหมู่ 7 บ้านท่าตะเภา ต.ท่าข้าม จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากฝนตกสะสมตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา และไม่สามารถระบายน้ำท่วมขังได้ทัน ส่งผลให้รถสัญจรผ่านไม่ได้ ชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจร และหลายหลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่โรงเรียนประกาศปิดการเรียนการสอนต่อเนื่อง

ข้อมูลล่าสุดของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ จ.สุราษฎร์ธานี ยังคงมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่าม 18 อำเภอ 119 ตำบล 911 หมูบ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหายทั้งหลัง 59 หลัง เสียหายบางส่วน 665 หลัง คอสะพานได้รับความเสียหาย 48 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,155,092 ไร่

นายธีรพงษ์ ศรีเทพ สมาชิก อบต. หมู่ 6 ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลายตำบลยังคงมีน้ำท่วมสูง บางจุดมิดหลังคา ชาวบ้านใช้ชีวิตยากลำบาก ส่วนใหญ่ทำสวน ปลูกผัก และยางพารา โดยต้องอพยพครอบครัวขึ้นมาอยู่บนถนน รวมทั้งศูนย์พักพิง หากฝนไม่ตกเพิ่มสถานการณ์อาจคลี่คลายได้เร็วกว่านี้

 

 

นายขวัญ แก้วขำ ชาวบ้านหมู่ 6 บ้านท่าตะเภอ ต.ท่าข้าว จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปีนี้ฝนตกหนักและน้ำท่วมรุนแรงมาก ก่อนหน้านี้ ตนเองหวังว่าฝนจะไม่ตกเพิ่มขึ้น หรือตกน้อยลง เพราะขณะนี้สวนปาล์มถูกน้ำท่วมขัง และไม่ได้กรีดยางพาราหลายวันแล้ว

นางฉลีวัฉฉ รุ่งรังสี ชาวบ้าน ม.6 ต.ท่าข้าม กล่าวว่า บ้านของตนเองเป็นบ้านชั้นเดียว ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงเกือบมิดหลังคาบ้าน และต้องอพยพไปอยู่ที่อื่น อีกทั้งเริ่มป่วยเป็นโรคมะเร็ง จนไม่สามารถทำงานได้ จึงกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด

นางนาตยา แซ่ก๋วย อายุ 47 ชาวบ้าน ม.3 บ้านนาค้อ ต.ท่าสะท้อน จ.สุราษฏร์ธานี กล่าวว่า ฝนเริ่มลดลงแล้ว หลังตกต่อเนื่องกว่า 10 วัน ขณะนี้ราคายางพาราดีขึ้น แต่ตนเองก็ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ เพราะสวนจมน้ำ รวมทั้งสวนกล้วยหอมที่ปลูกไว้ 200 หน่อ ส่งผลให้เกิดภาวะเครียดเนื่องจากขาดรายได้ แต่ต้องทำใจยอมรับ

ขณะที่นายทนงศักดิ์ ทวีทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เนื่องจาก อ.พุนพิน เป็นพื้นที่จุดรับน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำตาปี และแม่น้ำพุ่มดวง ก่อนไหลลงสู่ทะเล ทำให้ระดับน้ำท่วมสูงและหนักกว่าพื้นที่อื่นๆ ช่วงที่ผ่านมา มีฝนตกสะสมสูงถึง 200 มิลลิเมตร ประกอบกับมีน้ำจาก จ.นครศรีธรรมราช ไหลมารวมกันที่แม่น้ำตาปี ทำสถานการณ์น้ำท่วมมีความรุนแรงมากขึ้น โดยขณะนี้มีพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง 18 อำเภอ และน้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พุนพิน อ.เคียนซา อ.บ้านนาเดิม ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,851 ครัวเรือน ช่วงที่ผ่านมา กรมอู่ทหารเรือได้ส่งเรือผลักดันน้ำ 16 ลำ และเรือศรีวิชัย 10 ลำ จนสามารถผลักดันน้ำลงทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น แต่คาดว่าระดับน้ำอาจไม่ลดลงมากนักในช่วง 10 วัน

 

 

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือน เฝ้าระวังฝนตกหนัก และฝนตกสะสม จนถึงวันที่ 25 ม.ค.นี้ จึงขอให้ชาวบ้านอย่านิ่งนอนใจ และห่วงตนเองก่อน หากมีคำสั่งอพยพก็ขอให้ปฏิบัติตามทันที เพราะที่ผ่านมา หลายครอบครัวไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากห่วงทรัพย์สิน ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามบูรณาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ขอให้ประชาชนติดตามประกาศเตือนจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด สำหรับสภาพอากาศที่ จ.สุราษฎร์ธานี วันนี้ ฝนไม่ตกมากนัก หลายตำบลปริมาณน้ำเริ่มลดลงแล้ว ขณะที่หลายหน่ายงานเร่งเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล และอยากให้ทุกคนอดทน เพื่อผ่านพ้นวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน ส่วนหลายหน่วยงานต้องร่วมมือกันฟื้นฟูและเยียวยาหลังน้ำลด

ด้านนายประดิษฐ ทองจันทร์ นายก อบต.ท่าข้าม กล่าวว่า ในช่วงที่เกิดน้ำท่วม ได้มีการใช้รถเครื่องขยายเสียงในการประกาศแจ้งเตือน ซึ่งชาวบ้านร่วมเฝ้าระวังความเสียหาย เช่น สังเกตระดับน้ำ โดย อ.ท่าข้าม เกิดน้ำท่วมเป็นครั้งที่ 3 ในรอบเดือนนี้ ล่าสุดระดับน้ำท่วมถึง 2 เมตร

 

 

ขณะที่วันนี้ (22 ม.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน ฉบับที่ 28 เรื่อง "ระวังคลื่นลมแรงฝั่งอ่าวไทย และฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก" โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งในพื้นที่เสี่ยงภัยขอให้ระวังดินโคลนถล่ม จนถึงวันที่ 25 ม.ค.นี้

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง