วันนี้ (10 ม.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตลอดทั้งคืน นายอาคม สมหวัง พ่อของน้องต้นไม้ ด.ญ.พชรธรณ์ สมหวัง อายุ 5 ปี ได้ออกตามหาร่างของลูกสาวที่พัดไปกับสายน้ำเมื่อช่วยเย็นวานนี้ ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ่อและญาติของน้องต้นไม้พบร่างน้องลอยไปไกลกว่า 200 เมตรไปติดกับต้นปาล์ม เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งนำร่างของน้องไปส่งที่กองอำนวยการที่ตั้งอยู่ที่โรงเรียนบางสะพาน เนื่องจากน้ำได้เข้าท่วม โรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อขอให้เจ้าหน้าช่วยเหลือ แต่พบว่าน้องต้นไม้ได้เสียชีวิตแล้ว
ทีมข่าวได้ติดตามไปยังโรงพยาบาลทับสะแก ซึ่งพ่อ แม่ของน้องต้นไม้และญาติได้เข้ารักษาตัว โดยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไทยพีบีเอสว่า เสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่ตนไม่กล้าตัดสินใจนำครอบครัวออกจากรถตู้ เพราะคิดว่าเป็นเพียงน้ำหลาก จึงจอดรถรอน้ำไหลผ่านกว่า 2 ชั่วโมง ทำให้เป็นช่วงเดียวกับที่กระแสน้ำจำนวนมากไหลบ่าเข้ามา ทำให้รถตู้ที่ตัวเองขับมาหมุนและพลิกคว่ำ
นายอาคม สมหวัง พ่อของน้องต้นไม้
นายอาคม กล่าวว่า ในเวลานั้น ตัวเองและภรรยาทำใจแล้วว่าต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ เนื่องจากว่ายน้ำไม่เป็น จึงส่งลูกสาวให้กับพี่ชายที่มาด้วยกัน เพราะเขาว่ายน้ำเป็น เมื่อตัวเองส่งให้พี่ชายอุ้ม และระหว่างนั้นพี่ชายได้ส่งลูกให้กับญาติที่ออกมานั่งบนหลังคา ยังไม่ทันได้ส่งน้องต้นไม้ให้ขึ้นไปบนหลังคารถ ความแรงของกระแสน้ำทำให้พัดน้องต้นไม้หลุดมือลอยไปกับสายน้ำ และทุกคนที่เกาะอยู่ตรงนั่นก็ไม่สามารถจับยึดตัวเองไว้ได้
ทั้งนี้ นายอาคม เล่าว่า เดินทางไปงานบวชที่ จ.สุพรรณบุรี ระหว่างขากลับ ได้ไปกลับกราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และเดินเล่นกันที่สนามหลวง โดยขับรถตู้พาครอบครัวและญาติไปด้วยกัน 8 คน ระหว่างเดินทางกลับไปยัง จ.พัทลุง ก่อนเข้าพื้นที่ อ.บางสะพาน ตลอดทางมีเจ้าหน้าที่ตั้งด่าน แต่ไม่มีการแจ้งเตือนให้ระวังน้ำท่วม จึงคิดว่าสถานการณ์น้ำน่าจะเป็นปกติ จนมาเกิดเหตุไม่คาดคิดมาก่อน
ส่วนภรรยายังทำใจไม่ได้และยังเครียดกับเหตุการ์ที่เกิดขึ้น แพทย์จึงให้ยานอนหลับลดอาการเครียด โดยในวันพรุ่งนี้ ทางครอบครัววางแผนว่าจะนำร่างน้องต้นไม้กลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.พัทลุง และจะกลับไปเก็บสิ่งของมีค่าที่ยังพอเก็บได้ ซึ่งอาจจะต้องประเมินความแรงของน้ำท่วมอีกครั้ง เพราะไม่อยากให้ต้องมีการสูญเสียชีวิตเหมือนกับลูกสาวของตัวเอง ทั้งที่การสูญเสียครั้งนี้น่าจะเป็นตัวเองที่ทำใจไว้แล้ว