วันนี้ (2 พ.ย.2559) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดของสำนักข่าวเอบีซีร่วมกับวอชิงตัน โพสต์ ปรากฏว่านายโดนัลด์ ทรัมพ์ พลิกกลับมามีคะแนนนิยมนำนางฮิลลารี คลินตัน ร้อยละ 46 ต่อ 45 โดยมีค่าความคาดเคลื่อนอยู่ที่ร้อยละ 3
แม้จะเป็นการนำอยู่เพียง 1 จุด แต่เป็นครั้งแรกที่ทรัมพ์มีคะแนนนิยม นำนางคลินตันในผลโพลของเอบีซีกับวอชิงตัน โพสต์ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สร้างความหวังให้กับผู้สนับสนุนของทรัมพ์ ซึ่งเชื่อว่าทรัมพ์จะมีโอกาสชนะการเลือกตั้ง จากอานิสงส์ที่เอฟบีไอรื้อฟื้นการสอบสวนกรณีการใช้อีเมลส่วนตัวของนางคลินตันเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ หลังพบข้อมูลใหม่ที่เกี่ยวพันกับการสอบสวน
แม้ว่ากรณีดังกล่าวจะเป็นประเด็นร้อนที่บั่นทอนความนิยม รวมทั้งทำลายภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของนางคลินตันในช่วงท้ายการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 8 พฤศจิกายน แต่นางคลินตันยังคงมีคะแนนนิยมนำทรัมพ์ในผลโพลของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น โดยนำอยู่ร้อยละ 49 ต่อ 44
ด้านนายทรัมพ์ยังคงเดินหน้าโจมตีจุดอ่อนของนางคลินตันในประเด็นการใช้อีเมลส่วนตัว ล่าสุด เดินทางไปหาเสียงที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดาและประกาศกับผู้สนับสนุนว่าจะคว้าชัยชนะในรัฐนี้ให้ได้ ทรัมพ์ยังมุ่งการโจมตีไปที่จุดอ่อนของนางคลินตันในประเด็นการใช้อีเมลส่วนตัวและกล่าวหานางคลินตันติดสินบนนางลอเรตต้า ลินช์ รัฐมนตรียุติธรรม โดยจะให้นางลินช์ได้รับตำแหน่งอีกครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงระบบที่ฉ้อฉล
หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ในสหรัฐอเมริการายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมพ์ สามารถสร้างคะแนนนิยมได้ถึง 13 จุดภายในเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งทำให้ในขณะนี้นายทรัมพ์พลิกกลับมาชื่นชอบการสำรวจความนิยม หรือโพลอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ นายทรัมพ์เห็นด้วยกับทุกโพลที่ออกมาว่าเขามีคะแนนนำ แต่เมื่อปรากฏว่าคะแนนนิยมของเขาเกิดลดน้อยถอยลง นายทรัมพ์ก็จะหันมาบอกว่าโพลเหล่านั้นไม่ถูกต้อง