เกือบ 5 ทศวรรษแล้วที่ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้งมาได้หลายครั้งด้วยพระมหากรุณาธิคุณจากโครงการฝนหลวงที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงคิดค้นสำเร็จเมื่อปี 2512
แม้กระทั่งภัยแล้งครั้งล่าสุดในฤดูแล้งปี 2558/2559 ที่ภาคกลางต้องเผชิญปัญหาภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี หลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำประปา แต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมใหัจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงพิเศษขึ้นเพื่อเติมน้ำใน 4 เขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยา นักบินขึ้นบินทำฝนหลวงมากกว่า 4,300 เที่ยวบินกว่าที่ภัยแล้งจะเริ่มคลี่คลาย
แม้อาชีพนักบินฝนหลวงจะได้ค่าตอบแทนไม่สูงมากและต้องทำงานหนัก แต่นักบินหลายคนก็ภูมิใจที่ได้ทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท
"ปลื้มปิติที่ได้ปฏิบัติหน้าที่นี้ พระองค์เป็นขวัญและกำลังใจให้พวกเราชาวฝนหลวงที่ปฏิบัติหน้าที่ในทุกส่วน ทั้งนักบิน ช่างเครื่อง นักวิชาการ ฝ่ายอำนวยการ เรามีความรู้สึกปลาบปลื้ม เราไม่ต้องการค่าตอบแทนที่สูงมากมาย แค่ได้เห็นพระองค์ทรงงานอย่างเหน็ดเหนื่อยมา พวกเราก็ไม่คิดจะท้อถอย ยังยืนหยัดต่อสู้" พ.ต.วสวัตติ์ กุลฉัตรประสิทธิ์ นักบินประจำกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกล่าว
พ.ต.วสวัตติ์ กุลฉัตรประสิทธิ์ "พวกเราไม่คิดจะท้อถอย"
สายฝนที่โปรยปรายลงมาหลังทำฝนหลวงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่การเกษตรหลายพื้นที่ ทำให้อุมาลี พ่วงจันทึก เกษตรกร อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นอาสามัครฝนหลวงมานานหลาย 10 ปี เพราะสำนึกในมหากรุณาธิคุณของพระองค์ต่อเกษตรกรไทย
"ฝนหลวงของพระองค์ท่านมีความหมายมาก สามารถช่วยเหลือเกษตรได้ ทำให้เกษตรกรมีน้ำดื่มน้ำใช้ ผลผลิตดี มีอยู่มีกิน ทุกวันนี้ไม่เคยลืมพระคุณล้นท้นเหลือเกิน ถ้าพระองค์ท่านมองเห็น ลูกก็จะตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อเกษตร" อุมาลี พ่วงจันทึก อาสาสมัครฝนหลวง จ.นครราชสีมา กล่าว