นายหิรัญ พลดงนอก วัย 60 ปี ใช้ชีวิตอยู่กับสวนหลังบ้านเกือบทั้งวันเพื่อทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกไม้ผล พืชผักสวนครัว เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ซึ่งผลผลิตที่ได้ หากกินไม่ไหวก็แบ่งปันให้เพื่อนบ้าน นี่เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านบ้านทับเกวียนทอง ต.บึงบัว อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร หลังน้อมนำเอาพระราชดำรัสหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้เป็นหลักดำเนินชีวิตเมื่อกว่า 10 ปีก่อน
ในอดีตชาวบ้านบ้านทับเกวียนทองหลายคนขาดทุนจากทำการเกษตร หลังผลผลิตไม่เป็นไปตามเป้าหมาย บางครอบครัวต้องไปรับจ้างต่างจังหวัดและจำนวนไม่น้อยตัดสินใจขายที่นาเพื่อหาเงินใช้หนี้ แต่จากการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ หลายครอบครัวมีความเป็นอยู่ดีขึ้น พวกเขาเห็นตรงกันว่าล้วนมาจากโครงการตามแนวพระราชดำริ
ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของชาวบ้านช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในชุมชนจนหลายหน่วยงานให้การยอมรับ ขณะที่ผู้นำชุมชนระบุว่ารางวัลแห่งความภาคภูมิใจไม่ใช่โล่ หรือใบประกาศ แต่เป็นความยั่งยืนในการดำเนินชีวิตของชาวบ้าน
ปัจจุบัน บ้านทับเกวียนทอง มีประชากร 77 ครัวเรือน ยึดอาชีพเกษตรกรรม ใช้ชีวิตกินอยู่อย่างพอเพียง ขณะเดียวกันยังเป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำริอย่างครบวงจรและจากผลลัพท์นี้ทำให้ได้รับคัดเลือกเป็นหมู่บ้านต้นแบบมากถึง 3 โครงการ