ร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นำส่ง พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2559 แม้จะเป็นไปตามขั้นตอนในมาตรา 37 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557 แต่เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ต.ค.2559 จึงเป็นเกิดประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีหรือ กรธ.จะต้องเป็นผู้แก้ไขคำปรารภในร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่มีข้อบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว
หลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 คณะรัฐมนตรีได้ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยกรณีเรื่องการแก้คำปรารภ
ศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2559 ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องของ ครม.ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดว่า นายกรัฐมนตรีจะปรับปรุงคำปรารภของร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ต.ค.2559 ได้หรือไม่ อย่างไร เนื่องจาก กรธ.ได้ส่งร่างรัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวยเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วเมื่อวันที่ 11 ต.ค.2559 แต่ไม่มีบทบัญญัติใดของรัฐธรรมนูญให้อำนาจ กรธ.ในอันที่จะดำเนินการดังกล่าวได้
ทั้งนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจาและลงมติวินิจฉัยคำร้องนี้ในวันที่ 26 ต.ค.2559 เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีคำปรารภที่สอดคล้องกับสถานการณ์และข้อเท็จจริงของประเทศ
ตามโรดแมปการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น จะมีการนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในต้นเดือนพฤศจิกายน 2559 และคาดการณ์ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนเดียวกันนี้ เพื่อให้การผลักดันต่าง ๆ ที่วางเป้าหมายไว้ ได้เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศ ตามโรดแมปที่ คสช. ต่อไป
ทีมข่าวการเมืองไทยพีบีเอส รายงาน