วันนี้ (20 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีประชาชนทยอยบริจาคน้ำดื่มและอาหาร เพื่อร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวนมาก บริเวณจุดรับลงทะเบียนฝั่งตรงข้าม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
น.ส.ภัสราภา ประชาบาล เจ้าหน้าที่ประจำจุดรับลงทะเบียน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณจำนวนมาก โดยลงทะเบียนขอบริจาคน้ำดื่ม แต่ขณะนี้พบว่าจำนวนน้ำดื่มน้ำมีล้นสต๊อก เกินความต้องการนับแสนขวด หากเป็นไปได้อยากขอความกรุณาผู้บริจาคช่วยเน้นอาหาร เนื่องจากยังมีไม่เพียงพอในบางช่วงเวลา รวมทั้งการแจ้งความจำนงช่วงวันที่จะเดินทางมาบริจาคตามเต๊นท์ต่างๆ ในช่วงวันธรรมดาให้มากขึ้น เนื่องจากช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ขณะนี้มีผู้แสดงความจำนงจองคิวบริจาคแน่นมากแล้ว ซึ่งหากสามารถกระจายกันบริจาคให้มีปริมาณเพียงพอต่อจำนวนประชาชนที่เดินทางมาน้อมรำลึกก็จะเกิดประโยชน์มากที่สุด
สำหรับขั้นตอนและของบริจาคของประชาชน กรณีที่มีของบริจาคไม่มากนัก สามารถเดินเข้ามาสอบถามที่ศูนย์อำนวยการร่วมฯ ได้ทันที แต่หากจะเป็นหน่วยงาน หรือการรวมกลุ่มกันโดยของบริจาคมีจำนวนมาก ขอให้ติดต่อล่วงหน้ามาที่ศูนย์อำนวยการ เพื่อจะได้ช่วยลำดับวันเวลาที่จะนำของบริจาคมาลงไว้ตามเต๊นท์ต่างๆ ได้อย่างมีระเบียบและทั่วถึงมากขึ้น โดยประชาชนสามารถสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-224-2981, 081-696-7934 และ 096-870-3174 ส่วนประชาชนทยอยลงทะเบียนขอร่วมบริจาค ระบุว่า ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และบางคนไม่ได้โทรศัพท์มาล่วงหน้า ก็สามารถติดต่อได้ที่จุดลงทะเบียน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูล
จากการสำรวจเต๊นท์ต่างๆ พบว่ามีหลายเต๊นท์นำน้ำดื่มมาบริจาคจำนวนมาก โดยรอบสนามหลวงในจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ โดยไม่เกิดปัญหาเรื่องน้ำขาดแคลน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเต๊นท์ที่แจกข้าวหรือ อาหารคาว จะมีประชาชนจำนวนน้อยกว่าเต๊นท์แจกน้ำ ประกอบกับที่บางเต๊นท์ต้องนำวัตถุดิบมาประกอบอาหารสด เพื่อลดปัญหาอาหารบูดหรือเน่าเสียง่ายเหมือนอาหารกล่อง จึงทำให้มีประชาชนจำนวนมากต้องต่อคิวยาวในแต่ละเต๊นท์ เพื่อรออาหาร
สำหรับการจัดระเบียบเส้นทางจราจรรอบสนามหลวง ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา ทางตำรวจได้ห้ามรถขนส่งของจอดแช่ริมถนนเพื่อส่งของ เพราะส่งผลต่อปัญหาการจราจร และเตรียมจะขอความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แทน เพื่อขอให้รถขนส่งวัตถุดิบไปจอดภายในมหาวิทยาลัยแทน เพื่อแก้ปัญหาสภาพการจราจรโดยรอบ และไม่ให้ควันและเครื่องยนต์รถยนต์รบกวนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่สนามหลวงมากนัก