วันนี้ (9 ก.ย.2559) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเข้าฟังการไต่สวนในฐานะจำเลยคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวเป็นเหตุให้รัฐเสียหาย ซึ่งเป็นการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลย ครั้งที่ 3 พร้อมเปิดเผยว่า ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ พร้อมขอขอบคุณทุกกำลังใจ โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของ คสช.ในการเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง ซึ่งเห็นว่าหากรัฐบาลใช้จริงจะเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาล เพราะการพิจารณาคดียังไม่ถึงที่สุด และไม่เห็นด้วยที่จะใช้คำสั่งอำนาจทางการปกครองกรณีเรียกค่าเสียหาย และถือเป็นการใช้อำนาจในฐานะคู่ขัดแย้ง และได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีนี้มาแล้วหลายครั้ง
ทั้งนี้ พยานฝ่ายจำเลยวันนี้ มี 2 ปาก คือนายสุเมธ เหล่าโมราพร นักธุรกิจผู้ค้าข้าวระหว่างประเทศ และนายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการเกษตร ที่จะมาหักล้างประเด็นข้อกล่าวหาเรื่องกลไกการตลาดข้าว
ส่วนกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยตัวเลขค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการรับผิดทางละเมิดฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลเป็นความลับและไม่ควรที่จะรั่วไหลออกสู่ภายนอก พร้อมเรียกร้องฝ่ายค้านอย่าชี้นำ เพราะกระบวนการยังไม่สิ้นสุด เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปบนพื้นฐานข้อมูลข้อเท็จจริงที่ไม่มีการกดดัน
ส่วนกระบวนการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอให้พิจารณาอยู่บนพื้นฐานของเจตนารมณ์ตามร่างรัฐธรรมนูญ และประชาชนยอมรับและตั้งอยู่บนความพอดี นอกจากนี้ ปฏิเสธให้ความเห็นต่อผลงานรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. โดยระบุว่า รอให้รัฐบาลแถลงก่อน