วันนี้ (2 ก.ย.2559) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงกรณีที่นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ว่า ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งคนใหม่ ต้องรู้เรื่องเก่าและเคยทำงานในพื้นที่ จึงจะสามารถทำงานได้ ซึ่งมีคนในใจแล้ว และต้องเป็นข้าราชการพลเรือน ไม่ใช่ทหาร เพราะทหารรับผิดชอบ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้าอยู่แล้ว ส่วนการปรับการทำงานของ ศอ.บต.เป็นผู้รับผิดชอบดูแลเองและไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
ส่วนการส่งตัวแทนรัฐบาล 10 คน เป็นรัฐบาลส่วนหน้า เพื่อประสานงานในพื้นที่ชายแดนใต้นั้น จะส่งไปช่วงต้นเดือนตุลาคม หรือในปีงบประมาณใหม่นี้ โดยขอไม่เปิดเผยตัวบุคคล แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนคดีระเบิดและวางเพลิงใน 7 จังหวัดภาคใต้ว่า มีความคืบหน้าไปมากและได้ออกหมายจับแล้วหลายคน แต่ยังเชื่อว่าไม่ได้เป็นการขยายความรุนแรงจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนการที่นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะเดินทางมาหารือทวิภาคีกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 กันยายนนี้ ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบหมดแล้ว โดยจะเป็นการหารือในระดับนายกรัฐมนตรี จึงไม่ทราบว่าจะมีการหยิบยกเรื่องใดบ้าง
ส่วนกรณีที่ทางการมาเลเซีย ขอให้ไทยส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนคดีค้ามนุษย์โรฮิงยา 10 คน นั้นกำลังดูข้อกฎหมายอยู่ว่ามีความผิดอะไร ส่วนกรณีที่มาเลเซีย ระบุว่า ต้องขอตรวจสอบสัญชาติผู้ต้องหาทั้ง 10 ก่อนนั้น หากเป็นไปตามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน พร้อมดำเนินการให้ทันที