"เขาทำผิดกฎหมายหรือเปล่า ไม่ว่าจะกรณีไหน ถ้าทำผิดกฎหมายก็ละเว้นไม่ได้ กฎหมายเขาเขียนว่าห้ามทำ ถ้าทำแล้วมีโทษ รู้อยู่แล้วจะไปทำทำไม ในเมื่อสถานการณ์วันนี้เป็นแบบนี้ สิทธิเสรีภาพอาจถูกจำกัดไปบ้าง เพราะที่ผ่านมามีปัญหามาโดยตลอดก็ต้องห้ามไว้บ้าง แต่พอห้ามแล้วก็กลายเป็นจุดที่เอาไปขับเคลื่อนกัน ต้องการให้เจ้าหน้าที่จับกุมแล้วไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ เรียกร้องสิทธิมนุษยชน คนเหล่านี้เขารักประเทศไทยแค่ไหน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
"กฎหมายก็คือกฎหมาย ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าจะปล่อยหรือจะจับ ให้เจ้าหน้าที่เขาลงโทษตามหน้าที่ ถ้าเขาไม่ทำก็เท่ากับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างนี้มีการจับกุมดำเนินคดีตั้งหลายคดี ถ้าอย่างนั้นก็ต้องปล่อยหมดสิ แล้วก็มาพูดความไม่จริง มาบอกว่าป่วยบ้าง จะเป็นจะตายบ้าง เขาก็มายืนยันแล้ว อย่าหาเรื่องกันนักเลย ผมว่าพอแล้วล่ะ" นายกฯ ระบุ
แม้ว่านายกฯ จะไม่ได้เอ่ยชื่อบุคคลใด แต่ในช่วงสัปดาห์นี้ ผู้ต้องหาคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ที่อยู่ในความสนใจมากที่สุด คือ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ "ไผ่ ดาวดิน" นักกิจกรรมกลุ่มประชาธิปไตยใหม่อีสาน ที่มีอาการป่วยหลังจากอดอาหารในเรือนจำภูเขียว จ.ชัยภูมิ นานกว่า 1 สัปดาห์
อาการป่วยทำให้แม่ของจตุภัทร์ยื่นจดหมายขอให้เรือนจำส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่จตุภัทร์มีอาการดีขึ้นหลังจากได้รับการรักษาที่เรือนพยาบาลของเรือนจำ ขณะที่กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ว่าจตุภัทร์แข็งแรงดี
นายจตุภัทร์ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายวศิน พรหมณี นักศึกษามหาวิทยาลัยสุรนารี ถูกควบคุมตัวจากการแจกเอกสารซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญที่ตลาดสดภูเขียว จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. และถูกตั้งข้อหาว่ากระทำผิดตามมาตรา 61 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559
หลังถูกจับกุม ศาลอนุญาตให้ประกันตัวนายวศิน ส่วนนายจตุภัทร์ไม่ขอประกันตัวและเริ่มอดอาหารตั้งแต่เวลา 10.00 น.ของวันที่ 7 ส.ค.เพื่อยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำผิดและต้องการพิสูจน์กระบวนการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม