วันนี้ (13 ส.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเเละชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบความเสียหายร้านทวีสินพลาสติก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งถูกเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่าว่าเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ เสียหายกว่า 10 ล้านบาท ก่อนที่เสียงระเบิดจะเกิดขึ้น 2 จุดในพื้นที่ และเป็นเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน กับเหตุเพลิงไหม้ห้างค้าปลีกและค้าส่งขนาดใหญ่ใน จ.ตรัง เหตุเพลิงไหม้คูหาขายเสื้อผ้าที่ตลาดนัดบางเนียง จ.พังงา และเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าริมหาดอ่าวนางในจ.กระบี่
นายอธิธัช ศรีจรัสสิน เจ้าของกิจการทวีสินพลาสติก ระบุว่า ไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งเสียหายกว่า 10 ล้านบาท และเหตุการณ์ครั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม การก่อเหตุรุนแรงที่พุ่งเป้าไปที่เป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ของอำนาจรัฐ และเป้าหมายทางเศรษฐกิจในหัวเมืองหลักของภาคใต้ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า จะกระทบต่อบรรยากาศของการค้าในระยะสั้นรวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันในภาคใต้เติบโตขึ้นทุกปี โดยเฉพาะที่ จ.สุราษฎร์ธานี จากเดิมที่ตั้งเป้าว่าการท่องเที่ยวจะมีเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6
ขณะที่ หอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับผู้กระทำผิด และเร่งชี้แจงถึงสาเหตุของเหตุวุ่นวายในครั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน
เช่นเดียวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ซึ่งเกิดระเบิดขึ้นใกล้จุดตรวจของเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการนักท่องเที่ยว แม้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่จะยังคงมั่นใจ แต่ผลกระทบทันทีหลังสิ้นเสียงระเบิด คือการยกเลิกการจองห้องพักของนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำให้สมาคมด้านการท่องเที่ยวออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงเพิ่มการรักษาปลอดภัยในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะย่านชุมชน ท่าเรือ และเกาะต่างๆ ทั้งการตรวจสอบบุคคล หรือยานพาหนะของผู้มาใช้บริการ และผู้ที่เข้าพักตามโรงแรม และสถานประกอบการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงซ้ำ